วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วิถีทางแห่งลูกหนัง2

                  ยุคของการเปลี่ยนผ่านรูปแบบการเล่นเท่าที่ผมสังเกตในลีคยุโรป จริงๆนั้นน่าจะเป็นยุคที่บอลกลายเป็นกีฬาที่มีธุรกิจมาเกี่ยวข้องเต็มรูปแบบ เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปมากกอปรกับการสื่อสารมีความล้ำหน้าการถ่ายทอดสดฟุตบอลทางทีวีนั้นมีหลากหลายมิติเพิ่มทางเลือกให้ผู้ชมได้เข้าถึงได้มีส่วนร่วมได้รู้สึกว่าเราเป้นส่วนหนึ่งของสโมสรของทีมนั้นๆ ความMass มันเข้ามาครอบครองตลาดฟุตบอลโดยที่เราไม่รู้ตัวเผลออีกทีอ่าวมีเสื้อมีของที่ระลึกของทีมโปรดอยู่เต็มบ้านผ่านไปฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่าเริ่มจากการสะสมวีดีโอ จนมาถึงซีดี หนังสือต่างๆ เสื้อทีม ผ้าพันคอ ของแท้บ้างก๊อปบ้างก็ว่ากันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือการขยายฐานตลาดบอลของทีมอังกฤษในเอเชียตั้งแต่ยุคที่นากาตะไปเล่นในซีรี่ อา ตามด้วยนักเตะพลังโสมหลายคนตามไปในบุนเดส ลีกา (ส่วนหนึ่งพวกยุ่นพวกโสมมันเก่งจริง) และพี่ไทยเราก็พยายามยัดเยียดกองหน้าฝีเท้าดีทีมชาติไทยในขณะนั้น ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไปสู่ทีมบอลในเกาะอังกฤษ แม้จะไม่ได้เริ่มในลีคสูงสุดแต่ก็ไปโดนเค้าหลอกจากเอเย่นกากๆทำให้ เสียโอกาสหลายอย่าง ตอนนั้นความฝันที่จะเห็นคนไทยในพรีเมียร์ ลีคก็ดับลงไป จนมายุคที่เรามีนายทุนใหญ่ชื้อเหมือนฟัก(แม้ว) ที่เค้าเอายอดมาผัดอร่อยๆอ่ะครับ เราก็มีโอกาสได้นำนักเตะไปสัมผัสความเป็นมืออาชีพที่แมนซิ 3-4คนก็ยังดีครับเพราะรู้อยู่ว่าเจ้าของคนไทยไงก็ได้ลงแต่แค่ทีมสำรองนะจ๊ะ 555 จากนั้นก็ขายให้กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางจากนั้นก็ บลาๆๆ จนมาเป็นแชมป์ลีคสูงสุดของอังกฤษในวินาทีสุดท้ายเมื่อปี 2011-2012 ชนิดที่เรียกว่าพระเจ้ายังไม่กล้าเขียนสคริปนี้ให้ป๋าเฟอร์กี้ต้องเงิบจนวินาทีสุดท้าย แต่ก็ถือว่าเป็นอรรถรสที่เรียกว่ามันพระย่ะค่ะทีเดียว เพราะผมดูบอลมาเกือบทั้งชีวิตยังไม่ลุ้นเท่าวันนั้น ขนาดผีชิงยุโรปกับเสื้อใต้ที่โซลชายิงทดเจ็บยังไม่เท่าวันนั้นเลยครับ
                   จากตอนแรกเป็นเด็กหงส์ดีๆมาพูดแต่แมนซิกับผีเอ๊ะยังไง ท่านที่เป็นแฟนทีมไหนอย่าเพิ่งเหวี่ยงใส่กันครับถ้าชอบฟุตบอลกลมๆเหมือนกันติดตามต่อในบทหน้าครับว่าภาพจำของผมเกี่ยวกับลูกหนังในสไตล์เซียนบอลติสจะเป็นอย่างไรต่อไป

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วิถีทางแห่งลูกหนัง 1

         โลกของลูกหนังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีเรื่องราวมากมายมีตำนานทั้งที่ยังโลดแล่นอยู่และล้มหายตายจาก รวมทั้งบางคนได้ผันตนเองไปสู่โค้ชผู้ฝึกสอนหรือคร่ำหวอดอยู่ในวงการฟุตบอลก็เยอะ สำหรับบทความนี้อาจเป็นการกล่าวถึงภาพรวมของโลกทุนนิยมลูกหนัง ชีวิตพ่อค้าแข้งหรือเกร็ดเล็กน้อยอิงปรัชญาและความเป้นจริงตามวิถีทางของลูกหนังหรือฟุตบอลสมัยใหม่ในยุคที่ผู้เขียนมีลมหายใจอยู่ทั้งในวัยเด็กยุค 80 จนถึงปัจจุบัน (I phone 5 กำลังวางตลาด) ทั้งบอลอังกฤษ ยุโรปและเสียดสีสีลีคไทยบ้าง ตามที่ผู้เขียนได้วิเคราะห์และหาข้อมูลอยู่ในวงการลูกหนังมาทั้งชีวิต (เกือบ 30 ปี)
              ฟุตบอลอังกฤษในยุค80 -90 นั้นต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิงทั้งรูปแบบการเล่น การตลาดข้อมูล ต่างๆ ความยากง่าย ในการเข้าถึงภาพเสียง บทวิเคราะห์ บทสัมภาษณ์เมื่อก่อนจะได้อ่านผ่านกระดาษหนังสือพิมพ์ผ่านคอลัมภ์นิสต์กรองมาให้เราอีกทอดหนึ่งแต่ปัจจุบันทุกคนสามารถโพสแชร์ แสดงความคิดเห็นทั้งในแบบเป็นทางการ เสียดสีทีมคู่แข่งแบบเกรียนๆ (ปัจจุบันคน comment เกรียนมากใน pantip.com) พูดง่ายเชียร์บอลสมัยใหม่ไม่รู้ไม่ได้ พยายามไม่รู้ก็มีคนมาโพสให้เห็นข้อมูล ให้เจ็บช้ำอยู่ร่ำไปไม่ว่าทีมจะชนะแพ้หรือข่าวสารอัพเดทอะไร ผู้เขียนเติบโตมาในยุคที่หงส์แดงหรือปัจจุบันมีคนตั้งฉายาให้ใหม่ว่าเป็ดแดง (เดาว่าเป็นแฟนผี) มีอิทธิพลต่อบอลอังกฤษเป็นอย่างมากเนื่องจากได้แชมป์ลีกสูงสุดหลายสมัยติดต่อกัน เอียนรัช จอห์น บานส์ สตีฟ แม็คมานามาน ต่อเนื่องมาถึง ฟาวเลอร์ ล้วนแต่เล่นบอลกันด้วยความ เมพขิงๆ (เด็กเกรียนเล่นเกมพิมพ์ผิดเนื่องจากคีย์บอร์ดใกล้กันมากจริงๆมันคือ เทพจริงๆ) สำหรับรูปแบบการเล่นนั้นผมได้ดูผ่านรายการเจาะสนามทางช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณโดยคุณ ย โย่ง แกจะพากย์มันมากตอนที่ลูกเข้าประตู หงส์ยุคนั้นต่อบอลทั้งสั้นยาวได้แม่นยำจบสกอร์เฉียบคม ตอนนั้นผู้เขียนน่าจะไม่เกิน ป.2 คนที่อ่านมาถึงตรงนี้เริ่มจะคิดในใจแล้วว่า ไอ้นี่มันเด็กหงส์แน่...อย่าเพิ่งสรุปครับมาดูกันต่อ ผมโตมากับการเตะบอลบ้าบอลพลาสติก บางครั้งเอาลูกเทนนิสมาเตะ หลังจากจบรายการเจาะสนามตอนบ่ายก็จะบ้าบอเตะอยู่อย่างนั้นจนเย็นมโนว่ามีเพื่อนเตะด้วยหลายคนทั้งที่ชิ่งกับพนังบ้างฟุตบาตถนนบ้าง อยู่อย่างนั้นจนคิดว่าตัวเองชอบลิเวอร์พูล เป็น red machine กะเค้า แต่อะไรคือจุดเปลี่ยนของโลกลูกหนังของผมต้องตามดูกันต่อครับในครั้งต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เม็ดฝนใสๆและกลิ่นไอดิน

         เมื่อครั้งยังเด็กเล็กนั้น กลิ่นกรุ่นของไอดินเวลาเม็ดฝนตกกระทบนั้นมีความหอม อากาศในบ้านพักตำรวจแสนเย็นสบาย มีแคร่ไม้หน้าไว้นอนเอนกาย เปียกชุ่มไปด้วยหยาดฝนที่สาดเข้ามาพวกเรารีบเร่งกางผ้าใบเพื่อป้องน้ำฝน จากนั้นรางน้ำผ่านดินแน่นๆก็เริ่มไหลเป็นทางบรรดาของเล่นพลาสติกสีสันสวยงาม ทั้งที่เป็นรถ เป็นเรือ หุ่นยนต์ถูกขนลงมาในร่องน้ำตื้นๆนั้น ไม่กลัวเป็นหัวดไม่ว่าจะมีเสียงก่นด่าจากใครก็ตาม มันเป็นช่วงเวลาและบรรยากาศที่ดี ช่วงสั้นๆ ที่เราจะได้สนุกไปกับสายฝนหลังจากฝนซาเม็ดลง เย็นย่ำพอดีเราเริ่มเช็ดแคร่จัดแจงเตรียมอาหารมื้อเย็นแสนอร่อย หมูทอดชิ้นหนา ไข่เจียวที่ธรรมดา แต่น้ำพริน้ำปลาขั้นเทพ พะโล้น้ำข้นที่เราต่างชาบูในรสชาติ เย็นวันไหนมีเขาทรายต่อย ข้าวมื้อนั้นจะเย็นกับข้าวจะชืด เราจะเก็บสำรับกันค่ำเลยทีเดียว นี้เป็นบรรยากาศเสี้ยวหนึ่งของบ้านพักตำรวจในจังหวัดตาก ยังคงคิดถึงเย็นวันเหล่านั้นที่ไม่อาจกลับมาอีก แต่ยังคงชัดเจนในความทรงจำที่ซื่อสัตย์ของผม

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

super moon

          คืนวันที่ 5 พค 2555 จะมีปรากฎการณ์ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกที่สุดอีกครั้งหนึ่งจะสามารถมองเห็นจันทร์กลมโตสีสดใสกว่าครั้งไหนๆ สมัยยังเยาว์วัยมีตำนานเล่าขานถึงพระจันทร์สองดวงชายหญิงที่ต้องพลัดพรากจากกัน จนเหลือเพียงดวงเดียว อีกดวงแตกสลายไปเป็นดวงดาวเพื่อออกตามหาจันทร์ผู้หญิงที่ไปหลงไหลเสน่ห์พลังแสงจ้าของดวงอาทิตย์เพียงชั่วครา ว่ากันว่าเมื่อเราเห็นดวงจันทร์ชัดมากเท่าไร เราก็ไม่อาจเห็นดวงดาว เฉกเช่นเดียวกัน หากเราเห็นดวงดาวชัดมากเท่าไรในคืนนั้นเราก็ไม่เห็นแม้เงาจันทร์เช่นเดียวกัน ทั้งสองถูกสาปให้ไม่ประพบเจอกันอีก ที่มาของข้างขึ้นข้างแรมที่ผูกโยงด้วยเรื่องรักใคร่ของตัวแทนบนฟากฟ้า กับมนุษย์มนาที่อยู่เบื้องล่าง จันทรา ท้องฟ้า ดวงดาว พระอาทิตย์ยังโคจรต่อไปอย่างช้าๆ ชีวิตเราก็ผ่านล่วงเลยไป มีนัยแฝงถึงการอยู่กับปัจจุบันธรรมชาติหล่อเลี้ยงให้ชีวิตต้องดำเนินต่อไปท่ามกลาง สภาพสังคมโลกที่แต่ละมุมก็แตกต่างกันออกไป โลกที่เป็นหนึ่ง The one

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

คู่ชีวิต or ชีวิตคู่

           ในเดือนเมษา 2555 นี้จะเห็นได้ว่ามีข่าวดารา คนดัง คนรู้จักรอบข้างในสังคมเราหลายๆคนหลายๆคู่กำลังมีงานแต่งงานกันอย่างหนาแน่นด้วยวันดีฤกษ์งามก็ดีตามแต่สะดวก การมีชีวิตแต่งงานหรือชีวิตหลังแต่งงานที่ดีนั้น ทุกคนคงถวิลหาชีวิตแบบนั้นโดยเฉพาะกับหญิงสาววัยใกล้หลักสาม หรือเลยหลักสามใกล้หลักสี่ ที่อยากจะลงเอยกับผู้ชายดีๆซักคนที่เห็นว่าเขาคนนั้นจะสามารถดูแลหรือเติมเต็มให้ชีวิตหญิงสาวเหล่านั้นมีความสุขตามอุดมคติของแต่ละคน หากมองในมุมของคนที่ใช้ชีวิตตามครรลองของสังคมก็คงเป็นเรื่องปกติซึ่งซักวันหนึ่งเมื่อถึงวัยถึงเวลาอันสมควรพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงก็จะเป็นตัวเร่งปฎิกิริยาความใคร่อยากนั้นให้ชีวิตชายหรือหญิงตกล่องปล่องชิ้นกันในที่สุด แต่หากมองในมุมของคนที่ผ่านการแต่งงานหรือมีชีวิตคู่ที่ล้มเหลวทั้งในรูปแบบมีการทำนิติกรรมหรือโดยพฤตินัยแล้ว คงมีคำถามเกิดขึ้นมากมายก่อนที่จะริเริ่มความสัมพันธ์อย่างจริงจังในอนาคต
            คู่ชีวิต อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เรารักหรือมีความเหมาะสมในทางสังคม ในเชิงอุดมคติการที่จะแสวงหาอีกหนึ่งคนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้รับรู้หลายๆสิ่งอย่างกับหนึ่งชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเจอแต่หากลดทอนความคาดหวังมองในความเป็นจริงมากขึ้น ละทิ้งอดีตเริ่มต้นใหม่มองเพียงวันพรุ่งนี้เชื่อว่าหลายคนก็สามารถประสบความสำเร็จมีชีวิตแต่งงานที่อาจจะสุขไม่มากแต่ก็ไม่ถึงกับทุกข์ได้ บางคนอาจไม่ได้รักคู่ชีวิตของตนเท่ากับแฟนเก่าที่เคยคบหากันมาแต่คู่ชีวิตไม่ได้เพียงตอบสนองในเรื่องความรักความใคร่เพียงมิติเดียวหากแต่ในอนาคตจะร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาของคนคู่ที่อยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ต่างๆไปด้วยกันอีกมากมาย จากประสบการณ์ของผม มีหลักคิดง่ายเกี่ยวกับการเลือกคู่ครองก็คือ อยู่กับปัจจุบัน มองความสุขใกล้ๆตัว เลือกคนที่เราคิดว่าเข้ากับอุปนิสัยเราได้ดีในสถานการณ์ปกติไม่หลอกความรู้สึกตัวเอง และที่สำคัญหากเรามีโอกาสเลือกคนที่เค้ารักเราได้จงทำสิ่งนั้น เพราะในชีวิตหนึ่งของคนเรามีโอกาสน้อยมากที่จะได้ลงเอยกับคนที่เราก็รักเค้าแล้วเค้าก็รักเรา ตามกฏแห่งจำนวนมากที่อาศัยcaseจำนวนมากๆ ระยะทางของชีวิตคู่ของคนที่อยู่กับคนที่รักเรายาวไกลกว่า การใช้ชีวิตคู่อยู่กับคนที่เรารักเค้า แต่ก็อีกนั่นแหละไม่มีสิ่งใดตายตัว เพราะตัวผมเองก็ละทิ้งโอกาสของการอยู่ร่วมกับคนที่เค้ารักเรามานักต่อนัก

           รักอาจลดความสำคัญของมันเองลงไปตามกาลเวลา แต่ความเข้าใจในชีวิตคู่จะช่วยให้เราสามารถประคับประคองความสัมพันธ์ของท่านกับคู่ชีวิตไปได้ตลอดรอดฝั่ง

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

วัตถุนิยม หรือ นิยมวัตถุ

วันที่ชีวิตเดินทางมาไกลพลัดหลงจากสิ่งที่เคยยึดมั่นยึดเหนี่ยวรั้งดึงเอาไว้ วันที่ผ่านประสบการณ์การมีอยู่ ตั้งอยู่เกิดขึ้นแล้วเฉยเมยต่อการเปลี่ยนแปลงนานเข้า การมองโลกทุนนิยม การเลี้ยงดูผ่านกระบวนการที่สังคมต้องทบทวนถึงความผิดพลาดที่ปลูกฝังสู่กระแสเลือดหนุ่มสาววัยเรียน วัยทำงานจนถึงวัยผู้ใหญ่ การมองสังคมเชิงเปรียบเทียบ เชิงปริมาณที่เราเองต่างก็หลงทางกับความไม่พร้อม กับสังคมที่ตราหน้าผู้ที่มีวัตถุเหนือคนรอบข้าง ตั้งแต่วันที่ละทิ้งทุกอย่างไว้ที่บ้าน ไม่ยึดติดผูกตัวเองกับวัตถุเหล่านั้นก็พบกับความสบายที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ต้องห่วงกังวลกับการรักษา หวงแหน หรือรู้สึกครอบครองสิ่งที่ไม่มีชีวิตให้เป็นทุกข์กับการดำรงอยู่ อาจดูเหมือนคนไม่มีอะไรแต่ใครจะรับรู้การเปลี่ยนผ่านเหล่านั้นและเหตุผลมากมายที่ทิ้งทุกอย่างจากมาใช้ชีวิตลำพังตัวเปล่าไร้ต้นทุนชีวิตที่เป็นวัตถุ ปี2549 หลังจากเรียนจบได้ตัดสินใจมีรถยนต์คันแรกเป็นกระบะรุ่นใหม่ในปีนั้นช่วงแรกมันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นรู้สึกมีอำนาจมีหน้ามีตาในสังคมกว่าในหมู่เพื่อนรุ่นเดียวกันที่เพิ่งเรียนจบ เป็นเครื่องมือที่ต่อยอดให้ความสัมพันธ์รวดเร็วหวือหวามากขึ้นแล้วพบว่าต่อมามันก็คือความรู้สึกที่ผ่านไปแค่นั้น ต่อมาปี 2550 เมื่อความท้าทายเก่าถูกลดทอนลงไปก็เริ่มมองหาความท้าทายเป็นวัตถุใหม่กับสองล้อราคาร่วมแสนที่ในเวลานั้นมีอยู่ไม่กี่คันในบ้านในเมืองทางเหนือของประเทศ แล้วพบว่าต่อมามันก็ถูกกลืนกินโดยสังคมส่วนใหญ่ที่ต่างเข้าถึงทรัพยากรต่างๆได้ง่ายขึ้นแม่อยู่ในสถานะทางสังคมที่ไม่สูงมากนัก จากเมืองเล็กสู่เมืองใหญ่มากขึ้น ยานพาหนะก็เริ่มถูกลดความสำคัญลงไป มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปกับวัตถุใส่ใจเรื่องของจิตใจมากขึ้น จึงตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างไว้ที่บ้านด้วยเหตุผลหลายอย่าง ครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง เราไม่ได้ผูกติดกับวัตถุมาแต่กำเนิด แค่ช่วงเวลาหนึ่งมันสามารถพาเราไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและโก้หรูในแบบฉบับที่เราต่างนิยามกันมา ตามกฏหมายชื่อยานพาหนะทั้งสองเรายังคงครอบครองแต่ในทางจิตใจเราไม่ได้อยากจะได้หรือจำเป็นกับเราอีกตั้งแต่วันนั้นที่อะไรๆเปลี่ยนไป ฉันมีความสุขกับอะไรง่ายๆ ราคาถูกลง ในเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยหญิงสาวมากมาย และชีวิตเรียบง่ายไร้จุดหมายที่ชัดเจน แต่เราก็สุขได้ไม่เดือดร้อนใคร แม้เบื้องหลังครอบครัวและความเป็นมาจะผุพังก็ตาม

     ยังคิดถึงวัตถุนิยมเหล่านั้นแต่แค่ได้มองเห็นและตอนนี้มันอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ชีวิตเราไม่เหมาะกับมันเท่าไรในตอนนี้ ตอนที่ไม่ต้องพึ่งพามันเพื่อหน้าตาหรือสถานะทางสังคมอะไร เราก็เป็นสุขได้อยู่ที่ใจจะเพียงพอ

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

Time

  เวลาไม่เคยพอสำหรับมนุษย์ที่โลภมากและไม่มีการบริหารจัดการเวลาที่ดีพอ
  เวลาอยู่ของมันแต่กาลก่อนมนุษย์คือผู้สร้างกรอบเงื่อนไขเวลาเพื่อผูกติดกับสิ่งต่างๆเองทั้งนั้น
  เวลาของคนแต่ละคนสั้นยาวไม่เท่ากันตามแรงเสียดทานชีวิตที่แต่ละคนมีต้นทุนที่ต่างกัน
  เวลากับคนสองคนมักเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกกับเวลานี้ก็ต่อเมื่อคนสองคนนั้นได้แยกจากกันแล้ว
  เวลาหนึ่งวินาทีของนักวิ่งร้อยเมตรโอลิมปิคช่างแต่กต่างจากยามกะเวรดึกราวฟ้ากับเหว
  เวลาของการเกิดทุกข์ของมนุษย์ไม่อาจเทียบแม้ผงธุลีของห้วงเวลาการเกิดจักรวาลและโลก
  เวลาจะมีค่าก็ต่อเมื่อใกล้ถึงเวลาตัดสินอะไรบางอย่างที่เราไม่เคยให้ความสำคัญในยามชีวิตปกติสุข
  เวลาของเรามักย้อยแย้งกันเมื่อต่างคนต่างมองไม่เห็นมุมของคนตรงข้าม
  เวลาที่มีอยู่บนโลกมนุษย์ของหนึ่งชีวิตไม่ได้ยาวนานเหมือนก้อนอิฐหินหรือซากปรักหักพังเป้นพันๆปี
  เวลามีความสุขมักสั้นกว่าเวลาที่เราเกิดความทุกข์ในมุมมองของคนที่อยู่ด้วยปรากฏการณ์ต่างๆ
       
   อยู่ที่เราจะเลือกมองและอยู่กับเวลาไหนของเรา เวลาของทุกคนมีค่าและจำกัดกว่าที่คุณคิด

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

นี่คือเสียงเสียงเพลงที่มาจากใจ

                เธอจะอยู่ที่ไหนของจงได้รับรู้ หากเธอมีทุกข์ร้อนใดตอนที่ฉันไม่อยู่ อยากให้เธอรู้ว่ายังมีฉันยืนอยู่ข้างเธอ ... เพลงจากบอย โก ที่ฟังทีไรก็นึกถึงสิ่งดีๆตั้งแต่เพื่อน มิตรภาพที่ดี คนรัก ที่เคยมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน เหล่านั้นคือภาพความสุขที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ทุกคน การได้มีเพื่อนมีคนที่รักอยู่เคียงข้างในวันที่เราประสบความสำเร็จในชีวิตแต่ละขั้นแต่ละระดับนั้นเป็นดัชนีชี้วัดความเป็นมนุษย์สัตว์สังคม วัดระดับการอยู่ร่วม ความสุขของการได้ยินดีชื่นชม รายล้อมด้วยผู้คนไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง รับปริญญา ขึ้นบ้านใหม่ หลายคนคงมีความรู้สึกที่ดีถ้าเจ้าของงานนั้นเป็นมิตรสหายหรือคนคุ้นเคยที่เราไม่มีอคติต่อการไปและเต็มใจที่จะเดินทางร่วมไปกับหมู่คณะ
                เวลาที่เราอยากอยู่กับความสุขง่ายๆเราก็ต้องคิดในสิ่งที่ง่ายไม่ซับซ้อน เพราะถ้ามีเงื่อนไขความเป็นอยู่ที่เยอะซับซ้อนหลายขั้นตอนระยะห่างช่วงเวลาแห่งความสุขก็จะถูกถ่างออกให้กว้างขึ้น เราเองที่จะลำบากใจกายไปพร้อมกับคนเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะเป็นใครถ้ายังรักก็ยังไหว อยู่ไหว การต่อสู้กับจิตใจตนเองมีอยู่ทุกวัน การก้าวผ่านความโลภ กิเลส ตัณหา ก็มีอยู่ทุกวี่วันเช่นกัน

                ต้นทุนชีวิตผมต่ำมาก ผมมาได้ไกลขนาดนี้ก็ดีมากแล้วครับ by โก๊ะตี๋

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

ความว่างเปล่า

             บางคนบอกว่าความว่างเปล่า คือ การไม่มีอะไร การไม่มีตัวตน ไม่มีความรู้สึกต่อสิ่งที่มากระทบ บางทีอาจหมายรวมถึงการมองไม่เห็นอนาคตวันพรุ่งนี้ ความว่างที่ว่านี้ไม่มีอยู่จริงในภาคปฎิบัติ เมื่อใดที่มนุษย์ยังดำรงชีพหายใจ ใช้ชีวิตปกติล้วนมีอารมณ์และความรู้สึกเป้นตัวกำหนด แต่ละวันที่เรากินอยู่หลับนอนพบปะผู้คน ใหม่เก่า อดีตปัจจุบันและอนาคตผสานประโยชน์ร่วมกันทำงาน ความว่างเปล่าที่เรากำหนดขึ้นเองนี้ไม่มีอยู่จริง เพราะวันนึงที่เราผ่านความว่างเปล่านั้นมาได้ก็จะพบว่าความรู้สึกนึกคิดต่อสิ่งนั้นหาใช่ความรู้สึกว่างเปล่าไม่ มันคือการระลึกถึงและหากจะยังวนเวียนอยู่กับเรา ทั้งเบื้องหน้า ความจริงและความฝันของเราต่อไป เซลล์สมองเราไม่ได้ถูกสร้างเพื่อทำลายความทรงจำได้ด้วยตัวเอง บางสิ่งที่อยากจำเรากลับลืม บางสิ่งที่อยากลืมเรากลับจำ นี่คงเป็น algorithm  ของสมองคนเรา

             เราคงเลือกจดจำสิ่งที่งดงามในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบเพื่อตอกย้ำหัวใจและความรู้สึกให้ดำเนินต่อไปอย่างมนุษย์มนาที่เค้าทำกัน คงดีเสียกว่าหลอกตัวเองว่ามันคือความว่างเปล่าแต่ในใจยังครุกรุ่นด้วยความรู้สึก สัมผัส ความทรงจำที่ไม่เคยตายไปจากเราแม้เสี้ยววินาทีที่คิดถึง

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

เวลา วารีและวาจา

              มีปราชญ์ผู้กล่าวว่ามีอนิจจังในเรามองเห็นเที่ยงแท้อยู่ทุกวัน หนึ่งนั้นคือเวลา ที่ไม่เคยคอยท่าสำหรับผู้ที่ยังไม่ลงมือทำอะไร สองนั้นคือวารี สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับมาหาผู้ที่เชื่องช้าต่อความรู้สึก สามนั้นคือวาจาเมื่อเอ่ยคำพูดใดออกไปแล้วไม่สามารถเรียกมันกลับคืนได้ มันจะกลายเป็นนายเราทันใด มีอีกหลายสิ่งที่เที่ยงธรรมกับมนุษย์บางคนว่ามีอีกสิ่งคือโอกาส เป็นสิ่งที่สี่ในชีวิตที่บางครั้งมันมาทดสอบเราหลายครั้ง แต่บางชีวิตอาจมีแค่โอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นไปดังใจปรารถนา

              เธอล่ะจะเลือกสิ่งใดในการนี้ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ภายใน เพราะไม่ว่าฉันหรือเธอหรือใครๆก็ไม่อาจอยู่ในโลกนี้ได้านซักเท่าไหร่ เราต่างมาหยิบยืมพักพิงโลกใบนี้เพียงชั่วคราวแล้วจากไปเหมือนบรรพบุรษเรานั้นไซร์ จงใครร่ครวญ

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ความรักคืออะไร

ความรัก คือ การกระโดดบันจี้จั๊ม หวือหวาในช่วงแรกและอยากแกะเชือกออกเมื่อหมดความตื่นเต้น
ความรัก คือ การเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้าและแม่เหล็ก3 ขั้วบวกขั้วลบและขั้วหัวใจ
ความรัก คือ การเขียนรูปวาดด้วยหมึกมายากล ระเหยและจางหายไปกับคาร์บอนไดออกไซด์
ความรัก คือ การชักคะเย่อกันระหว่างความฝันกับความจริง
ความรัก คือ การใช้สีชมพูระบายทับสีดำบนกระดาษสาบางๆ
ความรัก คือ การกระโดดร่มท่ามกลางพายุและไม่มีร่มสำรองยามฉุกเฉิน
ความรัก คือ การจินตนาเพื่อมองเห็นของคนตาบอด
ความรัก คือ การถ่ายเทความคาดหวังและความทุกข์ให้อีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

แต่ความรักก็หมุนโลกนี้ไปพร้อมๆกับเรา และทำให้ฉันได้พบกับเธอ เธอที่แสนดี

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผีหงส์เหลืองแดงแฝงความคิดอารยชน

            สังคมต่างขั้วที่มีรากเหง้าเกิดมาจากความขัดแย้งทางการเมืองลงสู่สนามฟุตบอลสีเขียว ผู้คนที่อยู่ในวัยคิดอ่านตัดสินใจ เลือกข้างตามวิจารณญาณ และต้นทุนที่ต่างของตน ล้วนแล้วแต่ไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของอีกฝ่าย ที่ต่างมองว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ที่ผิดไม่เข้าพวกไม่ตรงตามใจตัดสินด้วยอารมณ์และเหตุผลที่เชื่อหรือฟังตามๆกันมา แม้แต่ในการเกทับบลัพแหลกเรื่องฟุตบอลก็เป็นกระแสเรื่องราว หากมองเป็นเกมกีฬาอย่างอารยชนเค้ามองกันเรื่องต่างๆคงไม่มาไกลและมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตในยุคที่รัฐบาลเปลี่ยนผ่านหลากขั้วสังคมเมืองข้าวยากหมากแพงโทษปี่โทษกลอง เพราะต่างคนต่างไม่โทษตัวเอง สภาพแวดล้อมและโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนไป การที่เราอยู่อย่างกลางๆเค้าบอกว่ามันไม่สุดแต่ก็ไม่ทุกข์กลับมองเรื่องความสุขเป็นของธรรมดาและสัมผัสได้ง่าย เข้าพวกได้ง่ายหลายกลุ่ม บางคนชอบหลากสี ใช้ชีวิตไปตามระดับมนุษย์เจ้าแห่งปรากฏการณ์เค้าเฮไหนก็เฮนั่นก็ดีเหมือนกัน
            ส่วนตัวผมเองหากพูดถึงฟุตบอลผมมีหลายทีมที่ชอบมากกว่าแมนยู อย่างต่างขั้วลิเวอร์พูลก็เคยชอบเชียร์ตอนเด็กๆตอนมันเก่งมีอดีตที่งดงาม รีลมาดริดก็ชอบเพราะเบคเคยไปอยู่นั่นปัจจุบันเป็นโรนัลโด้ ต่างขั้วอย่างบาซ่าก็ชอบความเทพของเมสซี่และสไตล์บอลที่สวยงาม เราไม่ได้เกลียดสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมากมายในชีวิตเราจริงๆหรอก ไปถามคนเสื้อแดงเค้าก็ไม่คิดอยากจะฆ่าอภิสิทธิ์ ไปถามคนเสื้อเหลืองจริงๆเค้าก็ไม่อยากจะยิงคุณทักษิณหรือยิ่งลักษณ์ เราล้วนโดนกระแสและปรากฏการณ์บีบบังคับให้ตัดสินใจ แต่เราเลือกได้ที่จะอยู่และมองความหลากหลายเห็นต่างเป็นสิ่งที่งดงาม

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ว่าด้วยเรื่องเหล้า

          หลายคนเคยได้ยินวลีที่พูดถึงเรื่องน้ำสีอำพัน เป็นวลีอมตะที่สหายสุราพูดถึงกันบ่อย คือ ประโยคคลาสสิคที่ว่า "เราไม่ได้ชื่นชอบในรสของสุรา แต่เราชอบบรรยากาศในการร่ำสุราต่างหาก" มีแนวคิดและความจริงที่สนับสนุนสมมติฐานนี้มากมายจากการทดลองซ้ำหลายครั้ง ทุกคนที่เคยดื่มด่ำกับน้ำสีอำพันต่างก็มีความเห็นตรงกันในแง่หนึ่งว่า น้ำสีเหลืองอำพันหลากหลายชนิดที่กลาดเกลื่อนในร้านห้างตลาด เมื่อผสมน้ำแข็ง น้ำโซดากระทบแก้วรินเข้าปากถูกดูดซึมโดยกระเพาะอาหารเข้าสู่กระแสเลือดกระบวนการต่างๆก็เริ่มต้นขึ้น โสตประสาทการรับฟังเริ่มค่อยๆน้อยลงเสียงตัวเราเองจะเริ่มดังขึ้นพร้อมกับเพื่อนๆรอบข้าง เรื่องราวสนุกสนาน สุข ทุกข์เริ่มประเดประดัง ผ่านหน้าที่เริ่มแดง ชา ความกล้าในเรื่องต่างๆเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงที่เพราะโดนใจ เพลงอกหักเพลงรักเพื่อชีวิตเป็นที่ถูกอกถูกใจแทบทุกเพลง ผ่านไปหลายแก้ว เอนไซม์ตับก็เริ่มสร้างสรรค์ตัวเองขึ้นเพื่อกำจัด Lกฮ โดยกระบวนการที่เป็นธรรมชาติที่สุด เมื่อมันแพร่กระจายไปในกระแสเลือดเกินกว่าตับจะหยุดยั้งได้สมองส่วนการทรงตัวและหัวใจก็เริ่มโดนกระทบขาเริ่มเซไม่ตรงทุกครั้งที่ลุกไปฉี่ สมรรถภาพต่างๆที่เป็นปกติค่อยๆเสื่อมลงชั่วขณะ การมองเห็นพร่ามัว ใครๆรอบกายก็สวยงามขึ้นโดยพลัน สิ่งที่ค้างคาในใจหลายเดือนหลายปีหรือสิ่งที่ฝังใจก็พรั่งพรูออกมาโดยไม่รู้ตัวอาจมีน้ำตาเสียงสะอื้นหัวเราะปนออกมา และชื่อแฟนเก่าอดีตคนรักก็อาจหลุดปากออกมาพร้อมกับ รอยฝ่ามือของหล่อน(แฟนใหม่)ที่กระทบใบหน้าเพื่อเรียกสติคุณกลับมาอีกครั้ง

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

วานนั้นยังมีเธอ

                นักเล่าเรื่อง ร้อยเรียงทำนอง เป็นบทเพลงกล่อมประโลมโลกมีอยู่มากมายทั้งที่มีชื่อเสียงในและนอกประเทศ พวกเขาเหล่านั้นมีทัศนคติและความคิดกับโลกสังคม ความไม่เท่าเทียม ความรัก มุมมองที่กว้างและมักประดิษฐ์คำ ประโยค ท่วงทำนองที่เข้าถึง mass คนหมู่มากให้คล้อยตามไปตามเรื่องราว ไม่คำนึงถึงยุคสมัย เพลงเหล่านี้มักเป็นปรนัยและอมตะไปพร้อมๆกัน ส่วนตัวที่ชื่นชอบในวิธีคิดและมุมมองที่ไม่สุดโต่งกับความรักมากนัก หรือถ้าเป็นเรื่องราวความรักก็มักจะเป็นรักที่เข้าใจเสียสละ ตัวอย่าง คือ แอ๊ด คาราบาว ปู พงษ์สิทธิ์ ถ้ารุ่นใหม่หน่อยต้อง สแตมป์ อภิวัช สังเกตงานเพลงที่ถ่ายทอดที่ดังอยู่ในอดีตถึงปัจจุบัน จะมีรูปแบบที่ค้ลายคลึงแต่กลิ่นของดนตรีอาจแตกต่างกันในรายละเอียด ส่วนถ้าเป็นป๊อป หรือบัลลาด โซล อาจมี pause นูโว ไฮดร้า ที่มีจริตทางดนตรีที่เราชอบ บางคนอาจมีมากกว่านั้น ทุกครั้งที่ฟังเพลงก็จะนึกถึงช่วงเวลาที่เพลงนั้นพีค ตรงกับช่วงที่เรามีความรักหรือประสบกับเหตุการณ์ใดมีความทรงจำในชีวิตที่ต่างกันตามแต่โชคชะตา นี่คือสิ่งที่ประโลมจิตใจความรู้สึกของ mass human ในตลาดของเสียงดนตรีบ้านเราผ่านยุค 60 จนปัจจุบัน

"วานนี้ยังมีเธอ อยู่ตรงนั้นตรงนี้เสมอ เดินมาเดินไป
ไม่เคยหันเหไปไหน อยู่ตรงกลางหว่างใจไปไหน ก็มีเธออยู่"


เมื่อจ่าฝูงเปลี่ยนมือ

           วันที่ทีมฟุตบอลที่เราชื่นชอบชนะและกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่คุ้นเคย มีสิ่งต่างๆมากมายแฝงอยู่ในวิถีของลูกหนังที่ยาวนานไม่ต่ำกว่า20ปีที่เราคิดว่ามันคือส่วนหนึงของชีวิตเด็กผู้ชายคนหนึ่งมันช่วยสร้างและผลักดันให้เราเป็นเราทุกวันนี้ วิถีลูกหนังที่มีแต่คำว่าทีม แพ้แล้วเริ่มใหม่ไม่ย่อท้อจนนาทีสุดท้าย ปล่อยวางเมื่อผิดพลาด นึกถึงวันพรุ่งนี้ไม่จมกับอดีต ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มีลาภเสื่อมลาภ ทุกสิ่งไม่แน่นอนบนลูกกลมๆ ปัจจัยที่มากมายองค์ประกอบที่หลอมรวม นี่คือสิ่งที่มากกว่าเกมฟุตบอล ชีวิตนักฟุตบอล สิ่งมากมายนอกสนาม ในสนามที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ จิตวิทยา การบริหาร ตัวเลข สถิติ การตลาด การลงทุนวิทยาศาสตร์การกัฬา ศาสตร์เกือบทุกแขนงมุ่งตรงสู่ธุรกิจฟุตบอลจวบจนปัจจุบัน
            ความรักบางครั้งก็ต้องพึ่งพาศาสตร์จากแขนงต่างๆมาช่วยวิเคราะห์ช่วยตัดสินใจ แต่คิดมากไปก็ป่วยการกับจิตใจมนุษย์ที่แปรเปลี่ยนตามสภาวะอารมณ์ ยากต่อการควบคุมแ้ม้แต่รู้ พบเจอ perception & experience ไม่ได้ตัดสินสิ่งที่เราพบเจอทั้งหมด อยู่ที่เธอ อยู่ที่เราจะเชื่อ และเก็บเกี่ยวความสุขใกล้ๆตัวเราได้มากเท่าไร ในโลกที่มันเปลี่ยนไปทุกมุมทุกองศา หมุนไปตามเวลาที่ถูกอุปโลคขึ้น ถ้าเธอจะรอรักแท้ที่สมบูรณ์แบบกับใครซักคนที่พร้อมจะเคียงข้างไปจนแก่เฒ่า โอกาสนั้นน้อยมากหรือแทบไม่มีเพราะไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร อาจไม่เป็นเหมือนวันนี้ที่เรายังสุขอยู่กับตัวเราและคนที่เราคิดว่าพอแล้วกับมัน บทเรียนของคนที่ผ่านพบเจอสิ่งต่างๆล้มเหลว สำเร็จ ยืดยาว ฉาบฉวย แสนสั้น มันคือการอยู่กับปัจจุบัน เมื่ออยู่ในpartของมนุษย์ที่มีกิเลสก็ให้จิตเป็นสุขตามสิ่งที่เป็น สิ่งที่เราต้องการ มีจริยธรรมในแบบฉบับที่เรารู้เราเตือนตนเอง ไม่ต้องแคร์กับสิ่งรอบตัวที่ทำให้เราสุขน้อยลงหรือทุกข์มากๆ แค่นั้นเราคงมีสุขไปพร้อมกัน

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

รักๆๆหรือแค่หลงๆๆ

     บางทีก็เฉยต่อสถานการณ์ที่ล่วงเลย คุ้นชิน บางทีก็ตื่นตระหนกต่อสิ่งที่ไม่เคยพบเจอ
     บางทีก็ไม่อยากจะเือื้อนเอ่ยอะไรไปมากกว่านี้ บางทีก็คงดีที่เรานิ่งเฉยปล่อยวาง

              บางทีเราก็มาไกลเกินกว่าความรู้สึกของคนปกติจะเข้าใจ บางทีผู้คนที่มองเราอาจไม่ลึกซึ้งถึงสิ่งที่จากมากระทบและประเมินค่าผิดไปจากความจริงที่เห็นผ่าน คำพูดเสื้อผ้าการแต่งกาย การตอบสนองในแง่มุมต่างๆ ขอบเขตการยอมรับและปฎิเสธของพฤติกรรมที่แสดงต่อสังคม เราอาจต่างกัน เราอาจมีสิ่งที่เหมือนกันในแง่ธรรมชาติอารมณ์และความรู้สึกแต่มีสิ่งละอันพันละน้อยมากมายที่เราไม่อาจแตกหน่อความจริงของชีวิตให้เข้าใจได้หมดอย่างถ่องแท้ ก็ต้องเฝ้าดูมันต่อไป กับใครหลายๆคนที่วนเวียนนึกคิดอยู่ในโสตประสาท

               เส้นบางๆที่กั้นระหว่างความรักความหลงความใคร่ความมั่นใจ และความกลัว

           
         

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

เสมอ

** กี่วันเดือนปี ผ่านทางชีวิต หลากหลาย
ซอกซอนซ้ำซ้ำ โค้งโค้ง ซ้ำ…ซ้ำ วนวน

* หลีกหนีไม่พ้น ไม่หลงทาง ไอ้ทางเก่า ซ้ำ..ซ้ำ ไม่พ้นเดิมเดิม
จากเช้าจนค่ำ ย่ำอีกวัน ขวนขวายหากิน ทำงาน….รับใช้ใครหนอ
หัวใจร่ำมันร้องว่าเหนื่อย เหลือหลายเจ้านาย เจ้าขา
มีแต่เธอสม่ำเสมอ ถึงซ้ำเติม หัวใจ….ไม่เคยว่า

*** คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ และเป็นเธอคนเดิม เสมอ….ทุกเวลา

ไม่มีคำบรรยายต่อสำหรับเพลงของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์เพลงนี้


วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

ฟังคิดถามเขียน

              หัวใจนักปราชญ์ สุจิปุลิ ที่พูดกันบ่อยในทางพระพุทธศาสนา เครื่องมือฝึกฝนทักษะต่างๆให้เด่นชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักฟังมากกว่าการพูดพร่ำเพรื่อไร้สาระ การรู้จักคิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุมีผล การรู้จักถาม สงสัย สืบค้นข้อมูลเพื่อค้นหาความจริงของปัญหา และสุดท้ายเขียน จดบันทึกร้อยเรียงความเข้าใจเผยแผ่ให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์
              ช่วงวัยมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างต่อเติมความเป็นปราชญ์ เมื่อครั้งยังเด็กเรามักจ้อพูดสนุกปากกับเพื่อนๆในเรื่องที่พบเห็นโดยไม่มีสาระขันอะไร เมื่อเวลาผ่านไปเรื่องราวเหล่านั้นก็เลือนลางลบหายไป เราไม่่ค่อยยอมฟังไม่ยอมลดลาวาศอกกัน แต่เมื่อผ่านเรื่องราวต่างๆเรายอมมากขึ้น ยอมฟังยอมถอย จึงเอื้อต่อการคิดตั้งคำถามและมีเวลาบันทึกเรื่องราวต่างๆมากขึ้น มีคนเคยบอกว่าการอ่านสิ่งที่คนอื่นๆเขียนเหมือนเราได้อ่านความคิดของคนอื่น แต่ถ้าเราได้เขียนหนังสือที่เป็นเรื่องราวของเราเหมือนเราได้อ่านความคิดของเราเองได้ทบทวนสิ่งที่เรากำลังคิดสนองตอบต่อเหตุการณ์ชีวิตประจำวันหรืออะไรที่มากระทบรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของจิตใจตัวเอง
              บางจิตที่อ่อนไหวต่อการกระทบกระเทือนทางอารมณ์รักใคร่ หรือใกล้ชิดจนเกิดข้อคำถามก็น่าสงสารความรู้สึกที่ถูกล้อเล่น แต่แท้จริงเบื้องลึกคือจิตใต้สำนึกที่อยากกระทำแต่เรื่องราวมันไม่ประติดประต่อและทัศนคติต่อชีวิต ความรักเราก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความเลวทรามไม่ควรคู่กับความดีงามการสรุปแบบนี้อาจทำร้ายคนที่เคยเคียงข้าง รอยจูบ ความทรงจำที่ผ่าน มันคือสิ่งดีๆที่รอการไตร่ตรองพิสูจน์อีกมากมาย ชีวิตเรามีอะไรต้องทำอีกมากมาย อย่าใส่ใจกับอารมณ์ความรู้สึกจอมปลอม มันจะมีที่ทางของมันเอง และเราจะอยู่บนโลกนี้กันได้ต่อไป แม้ไม่มีกันก็ตาม

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

ความหวัง VS ความหลัง

            การเดินทางของคนบนโลกนี้แตกต่าง ที่มาที่ไป แต่สิ่งหนึ่งที่คงเหมือนกันคือความพยายาม ความคิดความฝันความหัวงที่อยู่ระหว่างทาง ก่อนที่จะพบว่าจุดหมายปลายทางนั้นไม่ได้สำคัญเท่าระยะเวลาที่เราเดินทางไปกับหลายๆอย่างที่ทดสอบกำลังใจของนักเดินทางที่ชื่อว่ามนุษย์ อุปมาการเดินทางของชีวิตกับการล่องเรือ คงพบเจอกับวันที่ฟ้าในทะเลแจ่มใส วันไหนที่เจอเมฆฝนครึ้ม พายุโหมกระหน่ำ วันที่แสงดาวพร่างพราวกลางทะเล วันที่ร้อนอบอ้าววันที่หนาวจับใจ เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นและผ่านพ้นกันมาทุกคนในประสบการณ์การเดินทางที่ต่างไป
            นิ้วกลมบอกว่าอดีตมักส่งเสียงร้องยามค่ำคืน แต่ช่วงเวลาอื่นที่มันไม่ส่งเสียงดังแต่สำหรับบางคนอดีตที่เจ็บปวดมันส่งเสียงตลอดเวลาที่สะกิดจุดผิดพลาดทั้งเรื่องชีวิตและความรัก ต่อมผลิตเรื่องราวแห่งหนหลังมักอักเสบเมื่อเจอเรื่องราวใหม่ๆแต่เมื่อร่างกายจิตใจไม่ตอบสนองสิ่งใหม่หรือเคยชินมันก็จะหยุดและต่อมที่ว่านั้นก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง
            หลังจากวันที่เลือกเส้นทางเดินแบบวันนี้ก็ไม่เคยคิดถึงสิ่งที่เป็นตัวแปรแห่งความผิดพลาดอีกเลยชีวิตเราไม่ได้โรยด้วยคมหนามแต่ก็เกาะเกี่ยวกับมันตลอดเส้นทางที่เดิน วัฎจักรของอีดตจะกลับมาสัมผัสจับต้องได้ในทุกๆรอบที่โหยหาและเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องบอก สายน้ำแห่งอดีตอาจไม่ใสเหมือนเรามองเห็นในวัยเยาว์แต่มันก็หล่อเลี้ยงชีวิต ความหวังเรามาตลอดเส้นทางการไหลของมัน

บางที

     บางทีปัจจุบันก็ไม่ได้สัมพันธ์กับอดีต  บางทีสิ่งที่แน่นอนกลับไม่แน่นอน
     บางทีเหมือนจะรักแต่ก็ไม่เคยรัก บางทีเราคิดถึงใครแต่บางทีก็ไม่ได้คิดถึง
     บางทีเราเผลอตัวเผลอใจไปกับสิ่งที่ไม่มีเหตุผล บางทีสิ่งที่เราคิดกลับผิดทั้งหมด
     บางทีสิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง  บางทีชีวิตเราก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนในนิทาน
     บางทีอุปสรรคก็มาตอนที่เราประมาท  บางทีความอ่อนแอก็มาท้าทายความเข็มแข็ง
     บางทีเราก็มาไกลเกินจะกลับไปแก้ไขอะไรที่ผิดพลาด บางทีเราต้องยอมรับมัน
     บางทีเราต้องถอยหลังหลายๆก้าวเพื่อการเดินในวันพรุ่งนี้ บางทีเราก็มองไม่เห็นสิ่งที่คนอื่นเห็น
     บางทีเราเองคิดมากไปทั้งที่บางอย่างยังไม่เกิดขึ่้น บางทีคนที่อยู่ข้างๆเราเค้าอาจกำลังเหงา
     บางทีเราควรที่จะดูแลคนที่ดูแลเราบ้าง  บางทีฉันก็อ้างว้างทั้งที่มีเธออยู่
     บางทีฉันอาจรักเธอโดยไม่รู้ตัว บางทีฉันอาจไม่มีหัวใจ
     บางทีฉันอาจกลายเป็นคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจ
     บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นแค่ เรื่องสมมติ
     บางทีฉันอาจเหนื่อยล้ากับความเป็นจริงมากเกินไป ก็เท่านั้นเอง
   

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

4ปีมีหนึ่งวัน

           บางทีก็อยากจะพักสมอง ไม่ต้องคิดทำเรื่องใดนอกจากปล่อยกายปล่อยใจไปกับที่ที่เราไว้วางใจ เป็นสุขได้อย่างง่ายๆด้วยต้นทุนต่ำ อาจไม่จำเป็นต้องมีใครข้างกาย หรืออาจมีก็สุดแท้แต่ความสะดวก การผ่อนพัก ไม่ว่าจะในรูปแบบ การนอนหลับ การเดินทางท่องเที่ยวในที่ต่างๆ คือความเรียบง่ายของมนุษย์ที่ตอบสนองในวันที่เราอยากพักผ่อน คิดถึงปฎิทินที่อยู่เบื้องหน้าในอีกเดือนสองเดือนก็เหนื่อยแทนตัวเองที่ต้องทำนั่นนู้นนี่มากมายแต่ก็ยังไปต่อของมันตามวิถีทางได้เรื่อยๆ ชีวิตที่ไม่ยุ่งยากเกินไปนัก กับวันที่เราเริ่มละทิ้งสิ่งต่างๆจากที่เคยเป็นมา ปัจจัยภายนอกที่เคยเหนี่ยวรั้ง ครอบครัวที่ห่างไกล กลับมาอยู่กับความต้องการของตัวเองจริงๆ

           มนุษย์เราไม่อาจสร้างวัตถุที่เดินทางเร็วกว่าแสงได้ แต่เค้าว่ากันว่าความคิดถึงมันเดินทางเร็วกว่าแสงและสรรพสิ่งเสมอ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กฎแห่งจำนวนมาก(law of large number)

               กฎที่ว่าด้วยการทดลองสิ่งใดซ้ำๆเป็นจำนวนมากๆและให้ผลที่เท่าๆกันมีความน่าจะเป็นที่สูงก็ยึดถือเป็นแนวทางของเหตุการณ์นั้นๆ แต่หากในวิถีชีวิตที่เราต้องเผชิญกฎนี้ไม่ได้ผลที่เสถียรเสมอไป ความเชื่อมั่นอาจสูงแต่ความคาดเคลื่อนที่มีอยู่น้อยนิดก็เป็นไปได้เสมอในถนนของความจริงชีวิตที่ยาวไกล
               ในสังคมมนุษย์ที่ใช้ชีวิตตามจังหวะเวลาอายุขัยเป็นตัวตั้ง มีการสร้างอารยธรรมประเพณี วิถีที่สืบต่อกันว่าต้องทำอย่างนั้นเมื่ออายุเท่านี้ ทำอย่างนี้เมื่ออายุเท่านั้น มีการถ่ายทอดแบบไม่เป็นทางการให้คนเราทำสิ่งที่ซ้ำๆกันจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อเป็นการยืนยันทฤษฎีหรือความถูกต้องในการทำซ้ำให้สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่าจะเป็นการเกิด การเรียน การดำรงชีพ การมีคู่ครอง การเจ็บป่วย บั้นปลายชีวิตและการตายจากโลกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำซ้ำมายาวนานตามหน้าประวัติศาสตร์ที่เราต่างรู้
                การแต่งงานก็เช่นกันเป็นการท้าทายกฏของจำนวนมาก เป็นการทดสอบค่าเฉลี่ยที่เลือกข้างของการสมหวังและผิดหวัง มีคนเคยบอกว่าการแต่งงานคือขั้นที่สูงขึ้นของการพัฒนาความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ ตามครรลองที่เค้าทำกันสืบๆมาเพื่อสืบทอดเชื้อสายสืบสายพันธุ์ให้ดำรงอยู่จากธรรมชาติจนถึงโลกวิวัฒน์ การก้าวผ่านเหตุการณ์ต่างๆของมนุษย์ระดับสมองที่เห้นปรากฏการณ์ที่ผ่านพ้น โอกาสที่จะนำพาตัวเองข้ามไปสู่หนทางที่ปรารถนา ไม่มีการควบคุม นอกเหนือโชคชะตา ที่เกลี่ยทุกอย่างให้อยู่ในภาวะสมดุล เราจึงพบกับเหรียญสองด้านในชีวิตเสมอ

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชีวิตสัมพันธ์ (relationship)

                มนุษย์สมัยใหม่ใช้ชีวิตและมีแนวคิดในระดับที่เป็นปรากฏการณ์ซะมาก สิ่งใดวูบวาบโลดแล่น ตื่นเต้น กระทบกระเทือนตัวเราในระยะใกล้บ้างไกลบ้างก็ต่างแสดงออกแสดงความรู้สึกตามแต่เครื่องมือที่ตนเองมีหรือเข้าถึงได้ ห่วงโซ๋อาหารทางสังคมได้เปลี่ยนไป สังคมเมืองสังคมชนบท รอยต่อเริ่มจางหายมีลักษณะสุดโต่งคิดไกลกว่าปัจจุบันอยู่มาก บางคนอาจไม่เคยรู้ว่าธรรมชาติกับสังคมเมืองมันจะกระทบส่งผลกันได้มากน้อยเท่าไหร่ก็ต่อเมื่อเจอผลกระทบต่อตัวเองอย่าง อุทกภัยในปีที่แล้ว หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดความสูญเสียจากธรรมชาติ ในรูปแบบต่างๆ ถนนเมืองหลวงมุ่งหน้าสู่รายได้เป็นกอบเป็นกำ ละทิ้งความถูกต้องเห็นอกเห็นใจ เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ แต่ถนนชนบทยังมีสิ่งเหล่านี้หลงเหลือให้เห็นบ้าง ดัชนีชี้วัดความสุขของแต่ละคนอาจมี KPI ที่แตกต่างกันตามสถานะ ชนชั้น หน้าตา รายได้ แต่ท้ายสุดของวงจรชีวิตธรรมชาติก็ลงสู่ดินสู่น้ำ เป็นปุ๋ยดินแก่ต้นไม้ใบหญ้ากันทั้งนั้น การเกื้อกูลของสรรพสิ่งมีความสลับซับซ้อนแต่มนุษย์ก็ยังเพิ่มความยากให้กับธรรมชาติสร้างเงื่อนไขมากมายจนวันนี้เราไม่อาจคาดเดาได้ถึงสิ่งที่ธรรมชาติจะปรับสมดุลให้แก่มนุษย์ด้วยโทษทัณฑ์ระดับใด หรือให้เราเกิดความเคยชินต่อการอยู่ร่วมกัน

วันวานน้ำคือผู้สร้าง น้ำน้อยก็เดือดร้อนหิวโหย มีคุณค่า
วันนี้น้ำคือผู้ทำลาย น้ำมากข้าวของเสียหาย ทำลายเศรษฐกิจ ส่วนเกินไร้ค่า

แท้จริงเราเป็นผู้มอง น้ำและทรัพยากรอื่นๆผิดไป...

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์

                  ศิลปินหรือผู้ที่ใช้ดวงตาที่สามในการมองโลก การคิด การสนองตอบต่อความรู้สึกการควบคุมหรือยับยั้งความพิเศษของการนึกคิดมีผลต่อช่วงจังหวะชีวิตที่ดำเนินไปแม้จะสำเร็จหรือล้มเหลวแต่หากมีต่อมรับรสในความเป็นอาร์ตที่สูงส่งเกินไปก็ยากที่จะอยู่ในโลกความเป็นจริงแห่งทุนนิยมสมัยใหม่ สิบปีของการเปลี่ยนผ่านที่ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปตามระบบทุนกลืนหายผู้ที่เคยอยู่เคยมีความคิดอนุรักษ์นิยม Conservative ไปเกือบหมดสิ้นที่อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไปเป็นคนชายขอบในที่ที่ความเป็นตัวเองยังอยู่ไม่เบียดเบียนภายในเท่าใดนัก โจ้วง Pause  อาจเป็นอุทาหรณ์สายดนตรีที่สอนสั่งให้เราได้คิดตรึกตรองถึงความระลึกนึกคิดของศิลปินต่อมุมมองการใช้ชีวิต ความรัก เพื่อนฝูงมิตรภาพ ความสำเร็จ ล้มเหลว หรือการตัดสินใจ หยุด (Pause) ชั่วนิรันดร์ของโจ้
                  การมองจากบุคคลภายนอกต่อความเป็นตัวตนของโจ้ อาจดูเหมือนโจ้มีความสมบูรณ์ในเบื้องต้นของการเป็นมนุษย์ที่ครบรอบด้าน ทั้งการศึกษา วิศกรรมไฟฟ้า พระจอมเกล้าฯ จบการศึกษาแล้วอุปสมบททดแทนคุณพ่อแม่ เข้าสู่เวทีการประกวดโค้กมิวสิค อวอร์ด ได้รางวัลชนะเลิศในฐานะนักร้องเดี่ยว จากนั้นได้ค่ายเบเกอรี่มิวสิค ของบอย โกสิยพงศ์ ให้โอกาสจนมาเป็นวง Pause ที่มีเพลงประสบความสำเร็จมากมายหลายอัลบั้ม แต่กระนั้นก็ไม่มีใครรู้ถึงเบื้องลึกในจิตใจของโจ้ในวันที่ 20 กพ. 2545 ว่าเค้าเสียใจหรือสะเทือนใจเรื่องใดจึงปลิดตนเอง อารมณ์มนุษย์นั้นยากจะวิเคราะห์สภาวะในชั่วขณะ แต่สิ่งหนึ่งที่คนรอบนอกอย่างจะสะท้อน ผ่านผลงานของโจ้ อาจคิดถึงเพลงรักเธอทั้งหมดของหัวใจที่โจ้ร่วมแต่งกับบอย เพื่อมอบแด่น้องชายที่รักจากการจากไปด้วยอุบัติเหตุ แต่ไม่มีสิ่งใดยังคงคุณค่าแม้ว่าโจ้จะไม่อยู่บนโลกนี้กับแฟนเพลงอีก
                  สุกี้ ผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเบเกอรี่ ได้เคยกล่าวว่า "อยากให้ทุกคนจดจำเพลงน้ำเสียง ผลงานของโจ้ ความเป็นศิลปินที่ดีของโจ้ ไม่ใช่การตายของเค้าแบบนี้"

10 ปี ที่จากไปแต่แรงบันดาลใจและน้ำเสียงของโจ้ยังอยู่ในใจผมเสมอ by Jadenathee

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ยืนยง โอภากุล

               มีหลายต่อหลายบทเพลงของคาราบาวที่ผ่านปลายปากกาของชายที่ชื่อแอ๊ด ยืนยง โอภากุล เกือบทั้งหมดของมนต์เพลงคาราบาวที่โลดแล่นผ่านกาลเวลาหลายทศวรรษ มีคุณค่าความหมายที่สะท้อนสังคมชีวิตของคนทุกระดับลึกซึ้ง ไม่ว่ามุมมองต่อชีวิต ยาเสพติดพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่นับรวมผลงานที่เค้าสรรค์สร้าง ผมยังเชื่อในความเป็นกวีดนตรีที่อยู่ในตัวตนของชายผู้นี้เสมอมา อีกบทเพลงของคาราบาว "คนไร้ค่า" ที่ถ่ายทอดความหมายของคนที่ปรารถนาดีต่อหญิงสาวที่ลาลับจากไปสู่โลกที่กว้างใหญ่สวยงาม ให้กำลังใจ ส่งมอบความรักความคิดถึงห่วงใยในฐานะเพื่อนหรือคนรักเก่าได้อย่างเข้าใจ ดังตัวอย่างประโยคในเพลงด้านล่าง 

"โลกใบนี้กว้างนัก พร้อมให้คนก้าวเดิน ต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง
แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ แม้ฉันไม่เคียงข้าง อยากให้เธอเดินทางถึงที่ปรารถนา
แต่ให้เธอหันมายิ้มให้คนข้างหลัง ที่ยังเป็นกำลังใจให้รู้ว่าเธอมีสุข ฉันก็สุขเหมือนเธอ "

มีไม่กี่บทเพลงที่การฟังซ้ำๆกว่า100รอบแล้วเราไม่เคยเบื่อในชีวิตของท่านลองไตร่ตรองดู



วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โชคชะตา Destiny

              โชคชะตากับการนำพาของสรรพสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า บางครั้งก็เล่นตลกกับชีวิตคนจนเราไม่อาจคาดเดาทิศทางความน่าจะเป็น เริ่มจากการกำเนิดชีวิตความเป็นอยู่การหล่อเลี้ยง มองเห็นประสบพบเจอสิ่งใดในชีวิตล้วนโทษโชคชะตาฟ้าดิน บ้างก็ว่ามีคนขีดเขียนไว้ให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ไม่เคยทบทวนถึงเหตุและผลที่มาที่ไปของเหตุการณ์ความเสี่ยงในการผูกเรื่องราววงจรชีวิตที่เชื้อเชิญนำพาิส่งต่างๆมาร้อยเรียงจนเกิดผลส่งตามสภาวะปัจจัยที่เป็นหลักเหตุผล ที่แท้มันก็เกิดจากตัวเราเองทั้งนั้นที่สร้างรูปแบบโชคชะตาของเราเอง กำกับและแสดงออกมาในโลกความจริง เปิดกล้องเรื่องใหม่ ถ่ายทำฉากจบ มีงานเลี้ยงและเลิกลากันไปหลายร้อยเรื่อง ไม่มีสิ้นสุด

               "โลกคือละครทุกตอนต้องแสดง ทุกคนทนไป อย่าอาลัยยิ้มกันสู้ไปจะได้สบาย" วลีนี้คงใช้ได้ไปจนกว่าเราจะตายจากกัน

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โลกหมุนด้วยความรัก?

             หากการพบเจอความรักหลากหลายรูปแบบพร้อมกับจังหวะชีวิตที่ดำเนินไปกระท่อนกระแท่น พบการสูญเสียและเสียสูญไปบ้างตามการหมุนผ่านของเข็มเวลา การพบพานจากลาเกิดดับเวียนวนซ้ำซากจนชินชากับความสัมพันธ์หากแต่ยังหล่อเลี้ยงด้วยกายหยาบ ยังต้องกิน อยู่บนโลกที่เสพติดทางกาย ทางใจ ด้วยวัตถุ สิ่งของนอกกาย อาหารสำเร็จบ้าง กึ่งสำเร็จบ้างจึงยังต้องรู้สึก สำนึก สำเหนียกต่อความเป็นไปของสังคม ผู้คน ความรัก โลภ โกรธ หลง ชอบ เกลียดชัง ไม่จบสิ้น
             ความรักกับมนุษย์มีทฤษฎีรองรับในทางจิตวิทยามากมาย ความต้องการพื้นฐานกับความรักพื้นฐานที่สัญชาติญาณพยายามคัดสรรสิ่งที่เป็นความต่างความดิบเถื่อนออกจากสัตว์ species อื่น ความสลับซับซ้อนและความถี่ของประสบการณ์เท่านั้นเป็นตัวเร่งและdelay ปฎิกิริยาความสัมพันธ์การสนองตอบต่อเหตุการณ์ ความละอาย เกรงกลัวต่อความรัก มากน้อยบ่อยครั้งตามแต่โชคชะตาจะนำพาให้พบเจอ สังคม การนำตัวเองไปผูกติดกับสังคมแบบใดจึงได้พบเจอคนแบบนั้น จึงได้ลองรัก ลองผิดลองถูกกับผู้คนสังคมแบบนั้น จนประสบความสำเร็จได้พัฒนาชีวิตคู่ ไปอีกหลายลำดับขั้นก่อนลาจากโลกนี้ไป แต่สำหรับผู้ไม่สมหวังก็อาจต้องมีปฎิสัมพันธ์ด้านอื่นเข้ามาทดสอบ ไม่มีสิ้นสุดเช่นเดียวกัน ไม่มีใครในโลกนี้สมหวังกับสิ่งที่คิดทั้งหมด มีเพียง1ใน10หรืออาจมากกว่านั้นที่ได้ดั่งหวัง เรื่องความรักก็เฉกเช่นเดียวกัน จึงเป็นธรรมดาของโลกที่ต้องสร้างความแตกต่าง สร้างความหลากหลายให้เกิดแก่มนุษย์ที่ต้องเลือก ต้องละทิ้ง ต้องผูกพัน ต้องลาจาก มากกว่า1ครั้งในชีวิตเสมอๆ
             อารยะธรรมของมนุษย์หมุนเปลี่ยนโลก ไปพร้อมๆกับความรัก แรงปรารถนาและกิเลสของมนุษย์ จึงมีคนกล่าวว่าโลกนี้หมุนรอบตัวเองเปลี่ยนคืนวันด้วยความรักและหมุนรอบดวงอาทิตย์เปลี่ยนปีปฎิทินก็ด้วยความรักไปจนกว่าจักรวาลจะดับสูญ เราจึงไม่อาจหนีพ้นเรื่องรักใคร่ไปจนกว่าจะดับละสังขารฉันใดก็ฉันนั้น

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ว่าด้วยเรื่องรักๆ

              ตั้งแต่เกิด ลืมตาดูโลกมนุษย์เราล้วนเคยสัมผัสเปลี่ยนผ่านถูกส่งต่อสัญชาตญาณความสลับซับซ้อนทางพันธุกรรมที่เหนือสัตว์เดรัดฉาน ให้มีความรู้สึกนึกคิดเพื่อคุ้มครองป้องกัน ปรารถนาดีต่อสิ่งที่หวงแหน สิ่งที่เป็นของๆของตัวเอง ละเอียดอ่อนหยาบกระด้างตามแต่การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อมที่เผชิญตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบันที่ คำว่าความรัก ก็ไม่ได้มีความหมายโดยนัยลดน้อยถอยลงมันยังคงเป็น Symbolic เป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์นามธรรมย่ำอยู่ที่เดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยคือการนำจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ความรู้สึกนึกคิด การรับรู้ส่วนตัวการปรุงแต่งเข้าไปสวมใส่ให้คำว่ารักของแต่ละคนแต่ละยุคสมัยแปรเปลี่ยนเพี้ยนไป บ้างก็ว่าเป็นสิ่งสวยงาม บ้างว่าเป็นนิจนิรันดร์ บ้างว่าเป็นยาขม เป็นทุกข์อีกรูปแบบหนึ่ง แล้วแต่จะนิยามกันไปต่างๆนานา แต่เท่าที่ครึ่งชีวิตนี้นำพาให้พบเจอกับความรักจริงบ้างปลอมบ้าง บางครั้งก็เหมือนของก๊อปเกรดเอ ที่ดูเสมือน แต่ก็เป็นสิ่งที่ประโลมโลกมนุษย์ให้ขับเคลื่อน สรรสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาได้ก็เพราะเจ้าความรักนี่แหละคือตัวการ รักในจินตนาการ รักที่จะให้เกิดความสบาย พ้นทุกข์โดยเร็ว เราจึงมีสิ่งที่ต่อยอดทำให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากมากนักหากเปรียบกับยุคหิน ความรักกับรอยเท้ามนุษย์เดินสูสีเหยียบย่ำกันมาตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุคน แต่คนเราอายุเฉลี่ยไม่ถึงร้อยปีก็ย่อมมีช่วงเวลาความรักหลากหลายคละแบบทั้งวัยหนุ่มสาว รักในครอบครัว รักคู่ชีวิต ญาติสนิทมิตรสหาย จนถึงบรรพบุรุษที่มอดม้วยสิ้นชื่อกันไปเป็นวัฎจักร สุดท้ายความรักก็จะ ส่งผ่านเปลี่ยนมือ ตกค้างเป็นตะกอนให้แก่รุ่นลูกหลานได้นำพาเศษความรักที่หลงเหลือสืบต่อไปในนิยามที่แต่ละคนนึกคิดแตกหน่อหยั่งรากลึกลงไปอีกนานแสนนาน จนกว่าโลกนี้จะดับสูญ

"ความรักไม่เคยทำให้ใครเป็นทุกข์ หากแต่การไม่เข้าใจธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้มนุษย์รู้สึกเป็นทุกข์ทุกครั้งที่มันเข้ามาทักทาย"

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เกมลูกหนังกับการเมือง

            ฟุตบอลหรือหมากเตะ หากย้อนไปหลายพันปีที่แล้ว บ้างก็ว่าก่อกำเนิดที่เมืองจีนมีการเตะลูกหนังที่ทำจากหนังสัตว์ยัดขนสัตว์ถ่วงเหล็ก บ้างก็ว่ากำเนิดจากนักโทษในยุโรป กรีกโรมัน เตะหัวกระโหลก ข้ามหมู่บ้าน ทำประตูสองฝั่งวิวัฒนาการมาเรื่อย จนมีอังกฤษที่ร่างกติกาเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างมีรูปแบบจนกลายมาเป็นกีฬาสุดฮิตยอดนิยมทั่วโลก จนเกมฟุตบอลถูกแตกสายพันธุ์มีDNA ที่แปรเปลี่ยนไปมีการทับซ้อนของเกมกีฬา ประเทศ มหาอำนาจ การเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ความคลาสสิคของเกมลูกหนังก็ยังคงอยู่แม้ว่าหลายชนิดกีฬาจะนำภาพช้า หรือภาพรีเพลย์มาช่วยในการตัดสิน เช่นเทนนิส อเมริกันฟุตบอล แต่ฟุตบอลยังคงมีแนวทางการใช้มนุษย์ 2 ตา 2 หูตัดสินร่วมกับนักเตะในสนามผ่านเสียงนกหวีดเดิม แน่นอน human error เกิดขึ้นเสมอไม่ว่าจะอยู่ในการทำงาน การแข่งขัน ใดก็ตาม ฟุตบอลมาถึงยุคที่เทคโนโลยีแซงหน้าไปมาก แต่ต้องยอมรับว่าอรรถรสของฟุตบอลคือการตัดสิน การอ่านเกม การเคลื่อนที่ตลอดเวลาทุกวินาที เพียงพริบตาเดียวก็เกิดการทำประตูได้ตลอดเวลามีความยืดหยุ่นในระยะทำการที่จะตัดสินเอนเอียงหรือยกประโยชน์มากมาย หากมองเกมกีฬาคลาสสิคนี้อย่างเที่ยงธรรมตามจริตที่แต่ละคนเคยผ่านก็อยู่ที่ความชอบความเห็นใจ ความเสพติดในรูปแบบที่เคยเห็นเคยดู ไม่มีใครคิดจดจำแค้นเพราะเมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มขึ้นแมตช์ที่มีเวลาเพียง 90 นาทีก็จะถูกลืมเลือนเหลือเพียงช็อตเด็ดๆไม่กี่นาทีจากความทรงจำของมนุษย์ตัวเล็กๆ มีวลีหนึ่งที่สื่อกีฬาใช้เสมอกับเกมลูกหนังที่มี factor เยอะมากที่สุดอีกชนิดหนึ่ง

"อาการปวดหัว ปวดฟัน จับไข้ ตัวร้อน เครียด จะหายและทุเลาลงในเวลา 90 นาที"

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โบราณเค้าว่าการสมรสคือภาระ

             การสมรส แท้จริงความหมายคือ การที่คนสองคนมีรสที่สมกัน ต้องกัน รสที่ว่านี้อาจขยายความรวมถึงรสในการเสพ การกินอยู่ การใช้ชีวิตในมิติเดียวกันหรือไม่แตกต่างกันมากนัก หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า taste เดียวกัน ดังนั้นการแต่งงานหรือการสมรสจะเกิดขึ้นได้ในคนส่วนใหญ่ก็ต้องมีการเกื้อกูลกันในความสัมพันธ์ที่มีรสในรัก รสในการดำเนินชีวิตที่ล้อกันไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจึงเกิดการตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่อาจไม่รวมถึงการแต่งงานแบบต่างชนชั้น รวยจน ญ ชาย ที่มีการคลุมถุงหรือคลุมกระสอบ จนเกิดงานพิธีรีตองตามแต่เชื้อชาติศาสนาหน้าใหญ่ใจโตแล้วแต่ความสะดวกโยธิน แต่สุดท้ายปลายทางของการสมรสที่สมบูรณ์มีไม่กี่คู่ที่ฟันฝ่ากระแสสังคมความจริงที่เรามองไม่ค่อยเห็นตอนยังเป็นแฟนกัน ไปตลอดรอดฝั่ง
             ชีวิตหลังแต่งงานต่างหากที่สำคัญเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ภายใต้ผิวน้ำ เพียงปลายยอดที่โผล่มาให้เราได้เห็นได้สัมผัสได้เรียนรู้การก้าวผ่านชีวิตที่มีอีกคนหนึ่งและต่อไปจะมีอีกคนหนึ่งหรือหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจไม่มีสิ่งแน่นอนสำหรับคู่ชีวิตที่เลือก การพลัดพรากจากลาเกิดขึ้นได้เสมอ การรับรู้ในสภาวะที่แตกต่าง ความห่างไกลจากสิ่งที่คุ้นชิน แวดล้อมครอบครัวก็เป็นปัจจัยที่ส่งให้บุคคลคิด หรือเริ่มที่จะสร้างสถานะเพื่อพร้อมในการดำรงสืบเผ่าพันธุ์ในรูปแบบการแต่งงาน แต่สภาพโลก สังคมมันเปลี่ยนไปในช่วงสองทศวรรษที่พิธีการ การเข้าถึงทรัพยากรที่ง่ายดายวัฒนธรรมที่หลอมรวม ทำให้สัญลักษณ์การแสดงออกถึงความรักต่อสาธารณชนต่างออกไปและมีมุมมองที่โคลนนิ่งกันมา ถึงการได้มาซึ่งสิ่งต่างๆตามลำดับขั้นก่อนมาถึงวันที่เป็นเพียงการเริ่มต้น ป่วยการสำหรับบางคนที่จะพูดหรือสร้างมโนภาพแห่งความสุขให้ได้รับรู้ถึงความดีงามในความสัมพันธ์เชิงคู่ บางทีชีวิตนี้ก็มาไกลเลยเถิดไปกับ สัญญา กิเลส ตัณหาที่หล่อหลอมให้ห่างไกลผู้คน ครรลองสังคมที่ควรจะเป็นเข้าไปทุกวัน

           โบราณเค้าว่าการสมรสคือความรักและภาระที่ตามมาไม่จบสิ้น...
       

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ขงจื้อ

  หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี เจ้าจงปลูกข้าว
  หากเจ้าวางแผนไว้ 10 ปี เจ้าจงปลูกต้นไม้
  หากเจ้าวางแผนไว้ 100 ปี เจ้าจงปลูกความรู้แก่บุตรหลานของเจ้า

จำใจจำจากโอ้.......จำลา.............
ไกลห่างสถานศึกษา.....หม่นเศร้า.......
เคยเรียนเล่นทุกครา.....แสนสุข ยิ่งเอย
ฝังจิตคิดค่ำเช้า............หมั่นตั้งกตัญญู

จากแบบเรียนภาษาไทย ปิติ มานี มานะชูใจ ป.5

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

Abstract

               "เมื่อจะกระโดดให้สูงขึ้นจำเป็นต้องย่อเข่าเพื่อเพิ่มแรงผลัก"
               การถอยหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวิ่ง เพื่อกระโดดไปข้างหน้าได้ไกลกว่า การหยุดนิ่งเพื่อรอคอยสิ่งต่างๆไหลผ่านเข้ามา การก้าวเดินอย่างช้าๆเพื่อเชยชมกับสองข้างทางที่เต็มไปด้วยความสวยงามอากาศที่บริสุทธิ์ ขุนเขา ลำธาร แมกไม้ การว่างเปล่าของสรรพสิ่ง การตอกย้ำถึงความผิดพลาด ความยากไร้ทางความคิด ความแตกแยกของอนุภาคที่เคยเป็นปึกแผ่น ความผิดพลาดของพันธุกรรมต้นกำเนิด การไม่สามารถเลือกที่จะวางลงตรงจุดที่ต้องการ การหมุนเวียนของเหตุการณ์ที่ล่อแหลม การไม่รอบคอบต่ออนาคต ความไม่มั่นคงของกาลเวลา จิตใจ การปลดปล่อยพันธนาการแห่งความทุกข์  การมีอยู่ของปัจจุบัน การพลัดพรากจากสิ่งที่เคยเป็นของเรา การเหม่อมองสิ่งที่เคยนึกฝัน การผ่านพ้นสิ่งที่เคยเป็นความจริง  ความไม่พร้ิอมของมนุษย์ การไม่เข้าใจที่มาที่ไปของตัวตน ความภาคภูมิจอมปลอมของคน การแสวงหาสิ่งหลุดพ้นของกิเลส การถือกำเนิดอีกครั้งของตัณหา ความน่าสมเพชของชีวิตผุพัง การไม่ยอมรับความต่างของมนุษย์  การไม่ลดราวาศอกของคน ความเกี่ยวพันโดยบังเอิญของสังคม ความสำเร็จเบื้องต้นที่ไม่มีวันมาถึง ความล้มเหลวบั้นปลายที่รอคอยอยู่ การเติมเต็มที่ไม่มีวันหมด ความเหือดแห้งของธารน้ำใจ การมอบส่งความปรารถนาดี การน้อมรับด้วยความอิ่มเอม

"เมื่อมีสิ่งหนึ่งจึงก่อเกิดอีกสิ่งนึง  เมื่อมีการจึงมีความ เมื่อมีความจึงมีการ สิ่งนั้นเป็นสัจธรรม"

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

รักของ อ. เนาวรัตน์

"ในห้วงรัก การถูกรัก มันสุขใจ การมอบความรัก มันอิ่มเอม และเมื่อได้รับการปฏิเสธ มันทรมาน"
"ความรัก" จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดการถ่ายเทพลังงานอันอ่อนโยนของคนสองคน"
"คนบางคน เหมาะที่จะเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย"
"ความรัก"ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้น ทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง"ความรัก"
ในวันที่ "ความรัก"คงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงาน สิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป คือ "ความเข้าใจ" ล้วนๆ  (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)

         เมื่่อความผูกพันก่อเกิดความรักความตระหนักรู้ในสิ่งประโลมโลกก็ถือกำเนิดและวนเวียนอีกครั้ง มันก็จะเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่รู้จบสิ้นดับสูญ หากมองมันเป็นสิ่งสวยงามดั่งดอกไม้ช่อใหม่ที่พร้อมผลิบานยามเช้าก็คงงดงามในความรัก หากมองเป็นธนูอาบยาพิษในบั้นปลายแล้วก็คงไม่ต่างกับระเบิกเวลาแห่งรักที่พร้อมจะแหลกสลายหัวใจให้ร้าวรานในวันสิ้นสูญเช่นกัน ในชีวิตคนหนึ่งคนจะเปลี่ยนผ่านความรักได้ซักกี่หน ค่าเฉลี่ยคงไม่ต่างกันแต่ความหนาแน่นและสูงชันคงแตกต่าง ยังคงเป็นคำถามกับรักไม่รู้จบในมนุษย์ต่อไป

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ความสุขต้นทุนต่ำ

                เมื่อก่อนฉันเคยมีความสุขโดยไม่มีมูลค่า แค่เช้าตื่นมาในวัยเยาว์ ตื่นมาพร้อมกับลูกเทนนิส หรือพร้อมกับเครื่องเล่นเกมส์ในเช้าวันหยุด ก็เกิดออร่าความสุขในระดับที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการล้นเหลือ มูลค่าความสุขค่อยๆเพิ่มราคาตามกาลเวลาน่าแปลกใจที่ความสุขของเราหรือของใครๆต่างมีความหลากหลายแต่สิ่งที่เหมือนกันคือช่วงเวลาของความสุขนั้นมักจะเลยผ่านมานานหรือมีเวลาแห่งความสุขเพียงชั่ววูบ ครั้งหนึ่งเคยมีความสุขในวัยรุ่นเพียงไม่กี่ร้อยบาทจากการใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนที่ร่วมสุขทุกข์แชร์ค่าอาหารการกินสุราเมรัย ความสุขค่อยๆลดลงมีสิ่งทดแทนช่วงเวลาแห่งนั้นพื้นที่แห่งนั้นมากมาย บางคนความสุขอาจไม่มีมูลค่าเหมือนเดิม อาจอยู่ในรูปแบบที่เปลี่ยนไปแต่สิ่งที่โหยหาคือภาพช้าๆสีสดใส ปนยิ้มเหงาๆ
                 ความสุขที่เราคุ้นชิน ความสุขของใครหลายต่อหลายคนคือต้องการให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมเหมือนที่เคยรู้สึก แต่บางคนอาจไม่ได้อยากให้ทุกสิ่งอย่างเหมือนเดิมแต่แค่บางส่วนที่ขาดหาย หรือบางคนก็ไม่อยากให้อะไรเหมือนเดิมสิ่งเปลี่ยนแปลงวันนี้อาจเป็นความสุขที่สุดกว่า มนุษย์เมื่อผ่านความต้องการเบื้องต้น ก็จะสุขได้ชั่วขณะ เมื่อผ่านความต้องการท่ามกลางก็จะสุขไปอีกระยะเวลาหนึ่ง และสุดท้ายในบั้นปลายเมื่อความต้องการนั้นสมใจก็ยังมีสิ่งที่ยังต้องการอยู่ในขั้นบันไดถัดไปจนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป
                 อยากผ่านไปในหมู่บ้าน บ่ายๆมีรถเร่ขายไอติมเปิดเพลงเสียงดังเป็นเมโลดี้ที่เด็กๆในซอยต่างรู้ดีถึงการเตรียมเศษเหรียญเศษสตางค์เท่าที่หาได้ตามหลังทีวีตู้เย็นจากกระเป๋าตังแม่เพื่อแลกมากับความสุขยามบ่ายหน้าร้อน ฉันยังคงคิดถึงสิ่งเหล่านั้น แต่มันเริ่มหายไปเมื่อเติบใหญ่ สุขอย่างอื่นทดแทนในราคาที่แพงมากขึ้น มากขึ้นๆ ตามสถานะสังคม กาลเวลา

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

ดวงจันทร์

อยากจะป็นดวงจันทร์ ที่เธอชอบมองและดูเวลาเหงา...
อยากจะเป็นดวงดาว ที่เธอจ้องมองและดูเวลาเศร้า...
อยากจะเป็นทะเล ให้เธอผ่อนคลายนั่งมองเวลาทุกข์ใจ
อยากจะเป็นเสียงเพลง ที่เธอได้ฟังแล้วรู้สึก...

อยากจะเป็นลิปมัน จะได้มาจูบกับเธอทุกฤดูหนาว
อยากจะเป็นตุ๊กตา ที่เธอชอบกอดก่อนนอนและหลับฝันดี
อยากเป็นกล่องของขวัญ ให้เธอตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอกัน...
อยากจะเป็นละคร ที่เธอชอบดูและร้องไห้

แต่ฉันจะไม่เป็นตัวเอง... เพราะเธอไม่ต้องการ...

              การเปรียบเปรยถึงแรงปรารถนาที่จะมอบสิ่งดีๆแก่ใครซักคน อยากเป็นนั่นนู้นนี่เพื่อตอบสนองอยากให้เธอชอบแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นตัวเองเพราะหล่อนไม่ได้ต้องการ น่าสงสารแต่แฝงไปด้วยความประชดประชัน เป็นอีกงานใหม่ของวงที่ชื่อคือมนุษย์ที่แปลกแยกพิสดารผิดชาวบ้านที่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวฝ่าฟันกระแสเพลงต่างๆตั้งแต่เทป ซีดี จนมาเป็นยุคดาวน์โหลดแต่ก็ยังมีกลุ่มคนฟังติดตามและชื่นชอบอยู่ไม่น้อย PARADOX ชื่อนี้คงคุ้นหูมีหลายเพลงที่สามารถเล่นกีตาร์วงนี้ได้โดยไม่ขัดเขินและชิวสมูทที่สุดในบรรดาวงร็อครุ่นไล่เรี่ยกัน ทั้ง ฤดูร้อน ดาว ขอ sexy LOVE หรือเพลงที่ร่วมร้องและแต่งให้ศิลปินคนอื่นๆ เช่น ทะเลสีดำ Cry Cry Cry ส่วนตัวชื่นชอบคุณต้าร์ ที่เป็นทั้งคนร้องและประพันธ์ อีกหนึ่งวงคุณภาพที่เติบโตมาพร้อมกับการเสพดนตรีอย่างเข้าถึงเข้าเ้ส้นในยุคผม ยุคน้องเปิ้ลน่ารัก mp3 แผ่นรวมที่ผมยังจำได้โหลดขายกันในค่ายทหารตำรวจอย่างโจ๋มครึ่ม เปิดกับเครื่องเล่นที่รุ่นนั้นมีไม่กี่บ้านที่มี เพราะพ่อผมบ้าเกะ และขี้เหล้าเราจึงมีเครื่องเล่นนี้ก่อนบ้านอื่นๆในละแวกนั้นไปโดยปริยาย หลายปีที่ชีวิตผ่านแต่ความทรงจำยังอยู่ในหมู่บ้านหน้าค่าย และคงอยู่ตลอดไป แม้ว่าทุกอย่างจะแตกสลายแยกย้ายไปตามกาลเวลา

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

คนบ้า

             มีบทเพลงของวงตำนานเพื่อชีวิต คาราบาวที่ได้ยินมานานนมแต่ไม่ยักกะเคยฟังให้ได้ความหมายถ่องแท้ที่เล่าถึงคนบ้าในบ้านหลังคาแดงกับเชาว์ปัญญาที่ไม่ได้มืดบอดตามสติที่ไม่มีสตางค์

             แล้วมาวันหนึ่ง ถึงเวลาเย็น ฉันไปเดินเล่น เกาะลูกกรงรั้ว เห็นรถยางแตก กับหญิงสาวขี้กลัว ฉันยืนยิ้มที่ริมรั้ว ดูเธอเปลี่ยนล้อยาง (ยางมันแตก) เธอลนเธอลานพลั้งเผลอ เตะน็อตตกท่อ ก็เหลือแต่ล้อเปลี่ยนล้อ ขาดน็อตยึดแน่น จากความวิตกหวาดหวั่น กลายเป็นความแค้น เสียงตวาดแหว๋น เสียงดังแปร๋นแปร๋น แค้นที่มองหน้า ยิ้มทำไมไอ้คนบ้า

ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดี ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดี ฉันเป็นคนบ้า ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันสติไม่ดี ฉันเป็นคนบ้า บ้ายังช่วยบอก ให้เธอใจเย็น น็อตที่ฉันเห็น ยังมีอีกตั้งสามล้อ ถอดมาล้อละตัว มาใส่แล้วก็ไปต่อ เสียงเธอก็ร้องอ๋อ...ก็ไหนว่าเป็นคนบ้า

บ้าก็บ้าซิวะ ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่...


               การเล่าเรื่องตามบทเพลงแฝงแง่คิดของสิ่งที่คนในสังคม คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองกับชีวิตที่วุ่นวายมองข้ามสิ่งเล็กน้อย จุดใต้ตำตอที่สะท้อนถึงซากปรักหักพังของสังคมนิยมวัตถุคอมมิวนิสต์ถูกกลืนกินไปตามการขยายขอบเขตของเมืองใหญ่ การร้อยเรียงเรื่องราวทำได้เข้าถึงคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยไม่ยากเย็น อีกหนึ่งคนที่อยากพูดถึงคือแสตมป์ นักร้องนักแต่งเพลงรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจในการใช้ภาษามีแรงบันดาลใจจากกีตาร์ตัวเล็กๆ มีIdol เหมือนกับผมคือ ปู พงษ์สิทธิ์ ไม่ว่างานเพลงจะผ่านกาลเวลายุคสมัยก็ยังคงความอมตะไพเราะอยู่เช่นนั้น กำลังจะพูดถึงเพลงความคิด และอีกหลายต่อหลายเพลงทั้งที่เป็นบทบาทเบื้องหลังและเบื้องหน้าให้กับศิลปินชื่อดังมากมายกับรางวัลการันตีจากสีสีนอวอร์ด จากคนฟังเพลงที่เคี่ยวกรำกันมาถือว่าเป็นต้นแบบให้คนที่ชอบในเพลง ชอบในการเล่นดนตรีได้เจริญรอยตาม จินตนาการกับภาษา อารยธรรม ความคิดสร้างสรรค์ผนวกรวม แต่สุดท้ายก็คือความชอบ ความกล้า ความบ้าที่มีให้กับสิ่งที่เรารัก และแรงบันดาลใจจากคนที่รักเราซักคนก็คงเพียงพอ

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

ขบถหัวใจ

            การต่างตอบแทนในรูปแบบที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป การย้อมสีความคิดให้ผู้คนคล้อยตามและเลือกข้างในสิ่งที่ถูกต้องนั้นยากเข็ญขึ้นทุกวัน การถูกมองว่าเป็นปฎิปักษ์ต่อความคิด อคติชนในสังคมร้าวลึกขึ้นในทุกหย่อมหญ้าที่เหี่ยวเฉา วิจารณญาณถูกท้าทายสะท้อนการต่อเนื่องและคุณภาพการศึกษา การที่มีผู้คนกลุ่มหนึ่งออกมากล้าหาญต่อแนวคิดวิชาการไม่ยึดผลประโยชน์ต่อการสืบเนื่องของอำนาจการเปลี่ยนแปลงก็ควรยกย่องนับถือ มุมมองจากคนธรรมดา จากผู้มีส่วนได้เสีย จากคนในสังคมชั้นสูง ผู้เห็นอารยธรรมต่างชาติกว้างใหญ่ มีความบอบบางระหว่างตะวันตกและตะวันออกอย่างมีนัยยะ หรืออาจเรียกว่า ขบถ ในที่นี้ถูกขนานนามผู้ที่ซึ่งทำการต่อต้านสิ่งที่เป็นอารยะ แต่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่สากลต้องยอมเจ็บเนื้อร้อนใจ หากจะก้าวต่อไปในเส้นทางกำลังใจความหวัง ในชีวิตที่เกิดมาตายครั้งเดียวก็น่าคิดจะสนับสนุน หากอยู่บนร่องรอยของสติและประโยชน์ในส่วนรวม

            ขบถหลวงกลางกรุงมุ่งใฝ่ฝัน  เงยหน้าบังแดดแสงแรงรังสี
            ต้องตาแสบปวดร้าวราวคาวี   ถูกขยี้คมหอกจนตรอกมา

            โซซัดเซเรรวนชวนให้หลง  บาดแผลใจยังคงตรงวิถี
            จะแปรภักปลดปลงคงไม่ดี  ให้ถึงที่เพลามาจัดแจง

 

การเดินทางที่แสนพิเศษ

                บางคนเปรียบชีวิตดั่งการเดินทางบ้างก็ว่าเหมือนเรือลำน้อยใน มหานทีที่กว้างใหญ่ บ้างก็ว่าเหมือนนกน้อยตัวจ้อยล่องลอยไปในนภากาศ แล้วแต่การเปรียบเปรยของแต่ละคน หากเลือกที่จะสุขนิยมมองเชิงบวกก็คงเปรียบชีวิตเหมือนการเดินทางไกลชั่วคราวสองหมื่นกว่าวันที่เราอาจหลงลืม เมื่อถึงช่วงเวลาหมื่นกว่าๆอาจจะเริ่มมีการทบทวนถึงการทำเพื่อตัวเองน้อยลงเืพื่อคนรอบๆข้างมากขึ้น อาจไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการเดินทางไกลครั้งสุดท้ายของแต่ละคน ความสำเร็จในเบื้องต้น ท่ามกลางบั้นปลาย ความผิดหวัง เสียใจ สูญเสียเสียศูนย์เกิดขึ้นวนเวียนตลอดการย่างกรายเดินออกมาจากท้องแม่ วันแรกจนวันที่ตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงโดยรอบของแต่ละคนก็ช้าเร็วเนิ่นนานต่างกัน
                 เปรียบความรักกับการเดินทางและนาฬิกาของชีวิตคงเปรียบเสมือนเข็มนาทีบนหน้าปัดที่อาจไม่ได้เดินตลอดทุกวินาทีแต่ ไม่ว่าเราจะเงยหน้ามองนาฬิกาหัวใจครั้งใดมันก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่ ณ ที่แห่งเดิม หากมันยังคงหมุนวนตามเข็มวินาที ที่บางคนเปรียบมันเป็นชีพจร  ส่วนเข็มสั้นที่นานๆจะกระดิกทีคงเปรียบเหมือนการเป็นอยู่โดยรวมที่เราเองต่างตอบสนองด้วยการนำพาร่างกายและจิตใจไขว่คว้าเพื่อให้เวลาชีวิต หัวใจ ความรักของเราเดินไป จนสุดท้ายที่ถ่านนาฬิกาหมดลงชีวิตทุกอย่างที่เราเคยเปรียบเปรยก็คงหยุดตามไป นาฬิกาของเรายังคงหมุนไปพร้อมกับหลายๆคน บางจังหวะเราเคยเดินตรงกัน เราเคยมีช่วงเวลามีเข็มยาวที่ตรงกัน และปรับจูนเพื่อให้ไปตรงกับใครอีกหลายคน จนรู้สึกว่าเวลาที่เราหมุนพร้อมกันมันนิ่งพอที่ชีวิตจะหยุดลงและ นาฬิกาของเราก็กลายเป็นเืรือนเดียวกัน วันนั้น วันที่เราจะเลิกคิดถึงการเปลี่ยนแปลงอีกระยะหนึ่งหรือนานแสนนาน ท่ามกลางการเดินทางที่แสนพิเศษ อีกครั้ง

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

...

   ............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

   อาจมีตัวอักษรามากมายที่สื่อความหมายบนโลกนี้ อาจมีถ้อยคำศัพท์แสงมากมายให้ความรู้สึกที่หลากหลายแตกต่างกันไป  อาจมีภาษานับร้อยพันที่ปั้นแต่งเติมเต็มให้กับความรู้สึกและความหมายเหล่านั้น แต่มันไม่สามารถเทียบเคียงครึ่งหนึ่งของการ สัมผัส ผัสสะที่มนุษย์ถวิลหา และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ขอบคุณอ้อมกอดที่แสนดี

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

กลับสู่จุดเริ่มต้น

             บ่อยครั้งที่พฤติกรรมมนุษย์สะท้อนความเป็นมาของวิถีทางความคิด ความเคยชินต่อการกระทำ ความสัมพันธ์ที่ยากจะต่อต้าน การกลับไปเสพติดความคุ้นชินของใครต่อหลายคน ไม่อาจละทิ้งสิ่งเก่าๆให้หลีกพ้นทางของ ความยากของแต่ละคนในการทำได้เท่ากับการปฏิญาณตนกับหัวใจ
              ฉันทา ความพอใจในสิ่งที่ตนเหยียบย่ำ การเอาตัวเองเข้าไปผูกติดกับความจริง ความหวังของใครไม่เป็นผลดี แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงไฟราคะ ที่ก่อตัวฝังแน่นในมนุษย์ปุถุชน วันนี้มีเรื่องราวที่ได้พิสูจน์ถึงจิตใจคนที่กลับย่างกรายเข้าสู่เบื้องลึกของบาปอีกคำรบ ฉันหวังว่าฉันทำถูกที่เราเลือกทางเดินเส้นนี้ และมันจะดีต่อใครที่รายล้อมเราอีกหลายต่อหลายคน

              มีเรื่องราวอีกมากมายที่บางคนอาจไม่เคยรู้แลละสัมผัสแค่บางส่วนแห่งโลกบาลที่หนาทึบด้วยความโลภ โกรธ หลง เธอก็เป็นอีกคนที่ฉันรู้สึกสงสารในความเก่งกาจของตัวตนแต่ไม่อาจหลุดพ้นเส้นใยของสายสัมพันธ์ ขอให้เธอโชคดีกับสิ่งที่เลือกในเส้นทางสายเดิม  เส้นทางแห่งความเดียวดายปลายทาง

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ยิ่งสูงยิ่งเหงา

            ความสูงไม่ได้การันตีความหนาวเหน็บ บ่อยครั้งยิ่งสูงเท่าไรจิตใจกลับร้อนรนเท่ากัน
            ความรักไม่ได้บอกถึงความมั่นคง  บ่อยครั้งที่เรารักเพราะเหตุผลที่เราควรอยู่ด้วยกัน
         
            เมื่อเราพบเจอสิ่งใหม่ มักจะตื่นเต้นขวนขวายที่จะอยู่กับมัน จนลืมสิ่งเก่าๆไปชั่วขณะ
            เมื่อสิ่งใหม่จากไปเราจึงกลับมาให้ความสำคัญ ใคร่ครวญกับสิ่งเก่าๆ ไปชั่วขณะหนึ่ง

            สายลมพัดพาความหนาวเข้ามา แต่ไม่ได้พัดเอาความเหงาเราออกไปด้วย
            สายลมอาจพัดพาใครซักคนเข้ามา แต่เค้าก็อาจไม่ได้ทำให้เราเหงาน้อยลง

            กี่ครั้งที่พรหมลิขิตทำงานผิดพลาด กี่ครั้งที่สัญชาตญาณทำเราจากกัน
            กี่ครั้งที่โชคชะตาเลือกที่จะอยู่ตรงข้ามกับเรา
            กี่ครั้งที่เราไม่อาจได้พบเจอคนที่อยู่ในใจเราเสมอได้อีกต่อไป

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ

ถ้าหากการพบเจอสิ่งหนึ่ง ที่สวยงามกว่า สิ่งใดๆที่ผ่านมา ตราบชั่วเวลา
สิ่งที่เป็น ยิ่งกว่าสิ่งได ที่เกินอธิบาย ตรงคำที่มี ที่เกินรับรู้ ด้วยการมองเห็น ด้วยตา
ถ้าหากจะมีใครซักคน เดินเข้ามา ในช่วงเวลาความยากเย็น ที่ฉันเป็นอยู่
และคนคนนั้น ได้ทำให้รู้ ว่าการมองเห็น ไม่ใช่ทุกอย่าง
และคนคนนั้น จะโอบมือฉันประคอง ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ

จงปิดตาลง และหยุดภาพนี้ ที่มีเราอยู่   ลองปิดตาดู และปล่อยให้ความรู้สึก พาเราหนีไป (ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ)  ภาพงดงามที่เกิดจากใจ ย่อมมีความหมายเกินกว่า ด้วยการรับรู้ ที่เกิดจากตา อาจมีความหมายสูญเปล่า

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

นางฟ้าจำแลง

           ทุกสิ่ง ผ่านมาแล้วผ่านไป บางทีการอยู่นิ่งๆแล้วปล่อยให้สิ่งต่างๆใหลผ่านตัวเราไปอาจทําให้เราเข้าใจในสิ่งที่กําลังดําเนินไปมากกว่า การพยายามฝืนฝ่าสิ่งมากมายที่เราไม่เข้าใจอยู่และต้องการจะเอาชนะความไม่เข้าใจไปให้ได้ (ขอบคุณพี่เล็ก greasy cafe)

โฉมเอยโฉมงาม อร่ามแท้แลตะลึงได้เจอครั้งหนึ่ง เสน่ห์ซึ้งตรึงใจ
ครั้งเดียวได้ชม สมัครภิรมย์รักใคร่
พันผูกใจไม่ร้างรา
น้ำคำลือเลื่องไปทั่วทั้งเมืองนานมา
ชมว่าวิไลงามตาดังเทพธิดาองค์หนึ่ง
มาเห็นเต็มตาพลอยพารำพึง
ติดตรึง ชวนให้คะนึงอาจิณ

เห็นเพียงนิดเดียวให้ซาบเสีย วิญญา
ได้ชมโฉมหน้าดังหยาดฟ้ามาดิน
โสภาท่าทางดูช่างสำอางงามสิ้น
คำที่ยินยังน้อยไป
หรือว่าชาติก่อนนางได้รับพรของใคร
คงสร้างผลบุญยิ่งใหญ่ จึงได้วิไลงามตา
นางฟ้าองค์ใดแปลงกายลงมา
จึงงามดังเทพธิดาลาวัณย์

              ภาษาที่งดงามสละสลวย ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลามายาวนานเพียงไหนก็ยังคงติดตรึงอยู่ในผู้ที่ชอบเสพ จริตเยี่ยงนี้

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

วัฎจักร วงปีที่ 5

             และแล้วก็วนมาอีกจนได้กับสิ่งที่เป็นพลวัต เหมือนเมื่อ5ปีที่แล้ว แต่เราคงทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้ด้วยสิ่งต่างๆรัดตัว หวังว่าการมีภูมิต้านทานจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง ฝากไว้และเอาใจส่งไป เข้มแข็งไว้ทุกอย่างจะผ่านไปอีกครั้ง

ชายในฝัน เงาในน้ำ เหมือนเมฆลอยอยู่ในอากาศ
ดุจความรัก ที่ไม่เอื้อมอาจ แหวกสายธารไปใกล้ชิดกัน
เมฆบนฟ้าคอยตั้งเค้า เปลี่ยนรูปเงาไม่ยอมหยุดนิ่ง
ใจของคนไหวกว่าทุกสิ่ง เปรียบปอยเมฆผกผันเพียงชั่วยาม

ค่ำบางคืนไม่กล้าเมา แต่คืนนี้เราไม่เมาไม่ได้
เพราะความรักที่พลัดพรากไป ยากเกินใจจะตัดได้ลง
คงเป็นเพราะสวรรค์ไม่ส่ง นรกไม่สร้าง รักจึงจางล้างใจ
เหลือแต่ตัวบาดรักท่วมกาย หล่นจมลงในสายธารที่สิ้นหวัง

กิ่งไผ่ไหวเอน พัดไปตามกระแสลม
ในราตรีที่ขื่นขม โต้สายลมเพียงลำพัง
น้ำค้างพร่างพรู คล้ายหยั่งรู้ความอ้างว้าง
ของราตรีที่เปราะบาง หยาดน้ำค้างต่างน้ำตา

ดอกไผ่บานพยานแห่งรัก บานเพื่อลาจาก เจ้าจงปล่อยวาง
ความเข้มแข็งจะคอยเข้าข้าง ความอ่อนแอจะต้องแพ้พ่าย
ดอกไผ่งามเบิกบานในใจ ยังเฝ้าเก็บไว้เพื่อใครคนนั้น
นานเท่าใดคงไม่สำคัญ จะคอยเติมฝันถึงวันที่ดอกไผ่บาน

เพลงที่สร้างแรงบันดาลใจพลังความหวังในทุกมิติ ขอให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัยผ่านไปด้วยดี 

I love mom

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

รักของเราและกระเพราตับ

        วันที่แม่ป่วยหนัก วันที่เราไม่ได้พบกัน วันที่ดวงอาทิตย์ยังตกในทิศทางเดิม ตลอดชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีทุกข์สุขวันต่อวัน ความห่วงใยถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมเราหลีกเลี่ยงที่จะไม่แสดงความรู้สึกไม่ได้ ต่อผู้ที่เป็นมารดา การเจ็บป่วบทุกข์ทนเป็นเรื่องของสังขารหากแต่การก่อเกิดนั้นมีเรื่องราวร้อยพัน กับการฝืนความสุขอย่างง่ายๆ หวังว่าจะดีขึ้นและเป็นปกติเพราะถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงคงต้องแยกย้ายกลับสู่ภาระรับผิดชอบที่แปรเปลี่ยนชีวิตอีกครั้ง ยังไม่อยากเบนเข็มจากสิ่งทีเป็นอยู่ ได้โปรดอยู่ในเส้นทางต่อไป ขอให้แม่หายดีเร็ววัน อนาคตที่เหมือนระเบิดเวลา วิจารณญาณที่แฝงความน่าจะเป็นที่สูงส่งมันบอกมาตลอดว่าคงอีกไม่นานหากไม่รีบทำไม่รีบเดินคงต้องกลับไปอยู่พบเจอกับอะไรที่ไม่เคยหมายปอง ฉันหวังว่าฉันคิดหรือจินตนาการผิด วันที่ความคิดถึงห่างไกล รู้ว่าความรักจากอีกฟากฝั่งก่อตัว ขอให้ทุกคนที่พบพานผ่านมาไปกับคนที่ชื่อเจตน์นทีคนนี้ พบเจอแต่สุขสมหวัง แม้เราจะไม่ได้ไปต่อแต่ขอให้รู้ว่ายังระลึกถึง พรุ่งนี้ตะวันก็จะยังขึ้นในทิศตะวันออกเหมือนเดิมและฉันก็ยังคงรับแสงจ้า ศรัทธา ความรักจากใครซักคน และหวังว่าจะเป็นเธอคนถัดไป

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ในวันที่แพนเลิกเป้

              วันที่มี24ชม. เท่าเดิมแต่มีสิ่งอย่างหลายอันที่ต้องทำมากกว่าวันวานที่ผ่าน เรื่องราวรอบตัวสังคมที่หมุนผ่านเปลี่ยนทิศทางจนบางทีเราอาจยังไม่ทันได้ตั้งหลัก การรับรู้สิ่งที่สะเทือนต่อชีวิตรอบข้าง การวางหมากเงื่อนเวลาสำหรับเดือนต่อไป สามเดือน ปีต่อไป เป็นไปอย่างเข้าใจสภาพตามวิถีทางที่ยืดหยุ่นต่อไป การกลับไปซึมซับบรรยากาศครานี้คงได้ต่อเติมสายสัมพันธ์ทางวิชาการ การงานในบั้นปลาย เมื่อวันที่ท้องฟ้านิ่งสงัดเมฆหมอกจากหาย ทุกอย่างรอบกายกลับสู่ปกติสุขทางอารมณ์ สังคม ครอบครัว วันที่การฝึกฝนก่อตัวของความเชี่ยว เราคงได้กลับไปทำอย่างที่ฝันตั้งใจ
              การเกิดมาของคนชั่วชีวิตนึง ไม่ได้มาอยู่ยืนยาว เราแค่มายืมโลกนี้ใช้เพื่อสร้างสิ่งภูมิใจบางอย่าง ไม่กอบโกยเก็บไว้ แต่ใช้มันไปในด้านกว้างขนานกับมิตรภาพความกตัญญู ตอบแทนสิ่งที่ส่งเสริมให้เป็นเรา หาความสุขใส่ตัวในแบบที่เราเป็นไม่เดือดร้อนใคร ยิ่งใหญ่ในกรอบที่เราทำได้ ยังประโยชน์ให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป ไม่ฟุ้งเฟ้อ เรียบง่าย แต่ลุ่มลึกตามวิถีทาง
             
              ความสุขจากชีวิตที่ผกผัน มีอยู่ทุกวันตรงตะวันขึ้นที่ขอบฟ้าเดิม อยู่ที่เรามองอยู่ที่เราจะเห็น
              ความสุขง่ายๆกับอ้อมกอดการอยู่เคียงข้างลมหายใจ ความห่วงใย ร่างกายสามัญชนคนธรรมดา
              ความผูกพันที่ใช้สัญชาตญาณ หลีกหนีทฏษฎีที่ขัดแย้งคิดมากวกวนก็ค้นให้พบความสุขได้...
              เช่นกัน

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

วิศวกรรมจากสรวงสวรรค์

            มีหลายทฤษฎี หลายลัทธิ โจมตี พยายามข่มขืนความเชื่อเกี่ยวกับการกำเนิดของจักรวาล บ้างว่ามาจากการรังสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า การปั้นเสกของบิดาศาสดา ศาสนามากมายนิกายที่แตกแยก ในมุมดาราศาสตร์การระเบิดครั้งใหญ่ Bigbang (ไม่ใช่ Bigbag ป้องกันน้ำท่วม) ผสานกับ supernova(มหานวดารา) ที่ต่อมาเป็นการกระจายพลังงานจากดาวฤกษ์ที่แตกดับสิ้นอายุขัย ความยิ่งใหญ่ยาวนานของดวงดาว ยังไม่มีสิ่งใดยั่งยืน เทียบกับชีวิตที่ก่อตัวโดยอะตอมล้าหลังประวัติการก่อเกิด แทบไม่มีคุณค่าและไม่อาจเทียบอัตราการสะสม แรงดึงดูดคือสิ่งที่สร้างสรรพสิ่งในทฎษฎีห้องทดลอง ภายในห้องพื้นไม้ใส่ลูกแก้วเหล็ก แต่หากห้องทดลองแบบจำลองที่ว่านี้มีอนุภาพแห่งความเป็นไปได้ได้มากกว่า ไม่มีใครล่วงรู้อดีตจากนิมิต มีแต่ตาที่ส่องถึงการเชื่อมโยง ตามหลักเหตุผล จนผ่านยุคสมัยมากมาย ความเชื่อกับมนุษย์ก็ยังเป็นของเล่นคู่กันมานานนม จิตวิญญาณ จากแหล่งความรู้ การดำรงตนในแนวทางที่ จิตใจ สิ่งรอบตัวกำหนด ไม่มีแบบแผน ทุกสิ่งถูกกระตุ้นด้วยสภาวะที่ไม่พึงประสงค์ สภาวะที่เลือกกำหนดโดยจิตตนและจิตของผู้อื่น อาจเทียบได้กับการก่อกำเนิดของดาวเคราะห์น้อยใหญ่นับล้านๆกาแล็คซี่ ดาวใหญ่น้อยที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่และดับสลายกลายเป็นหลุมดำ (black hole คือเทหวัตถุในเอกภพที่มีแรงโน้มถ่วงสูงมาก) ดูดกลืนทุกสิ่ง
            เหล่านี้ถ้าอุปมัยการก่อกำเนิดอาจเทียบเคียงได้กับการรังสรรค์ของพันธุวิศวกรรมจากสรวงสวรรค์ดั่งเช่นความเชื่อของกรีก ยิวหรือแม้แต่ตะวันออก หากแต่ความเชื่อนั้นทำให้สิ่งดีงามจรรโลงโลกใบนี้ได้ ความรักในการเกื้อกูลของมนุษย์ การมายืมใช้โลกของตนเพียงชั่วคราว เสพสุขแล้วจากไป การละทิ้งไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ การเป็น การอยู่ ที่มีเนื้อหนังลมหายใจ เข้าสู่การดับของกายหยาบ จิตที่เป็นสุขจากการปล่อยวาง มีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ และเสพสุขต่อไปโดยไร้สิ่งเชื่อมต่อกับ สัญญา เวลา รวมถึงตัณหา กิเลสเบื้องต้นที่ เรา หรือใครๆถวิลหาตลอดช่วงเพลาที่จุติบนเอกภพ
         
            ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งมากมายซับซ้อน การก้าวล่วงผ่านมาพานพบกับสุดทางสุดท้ายของการใช้ชีวิตความสุขที่เราหาได้จากการเคลื่อนที่ของร่างกายจิตใจ ผ่านประวัติศาสตร์ผู้คนที่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นมันก็คือวันเก่า เราเดินทางไปพร้อมกับวันใหม่ๆ ความหวังและความหลังให้ผลต่างกันในมุมมอง

           ผู้ใดมีรักอยู่เสมอเหมือนย่อมก่อเกิดความหวัง
           ผู้ใดมีความหลังย่อมเกิดแต่รักที่เป็นทุกข์

           และ เรามักจะมีความหวังในสิ่งที่เรารัก แต่บางครั้งเราก็รักในสิ่งที่ไม่มีหวัง