วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คุณค่าของการมีอยู่

        การมีอยู่ของคนเราหลักใหญ่ใจความคงมีอยู่ 2 อย่าง การอยู่เพื่อตัวเอง กับการอยู่เพื่อคนอื่น คุณค่าของมันจึงต่างกันสิ้นเชิงในด้านคุณูปการต่อสังคมและปัจเจกชน ถามตัวเองว่าการมีอยู่ของเรานั้นส่วนใหญ่ในชีวิตล้วนเกิดมาเพื่อที่จะหาความสุขตอบสนองให้กับตัวเอง กลัวตัวเองเป็นทุกข์ กลัวตนเองต้องผิดหวังจากเรื่องราว อารมณ์ความรัก หรือตอนที่คนที่เรารักจากไป การพลัดพราก เหล่านี้ล้วนเป็นจุดกำเนิดของการอยู่เพื่อตัวเราเอง  อัตตาหรือฝรั่งเรียกมันว่าEGO ในยามที่ห้วงอารมณ์ตกอยู่กับตนนั้นมันใหญ่เกินกว่าจะมองคนรอบข้าง มันจึงเป็นปัญหาทั้งชีวิตของปุถุชนธรรมดา 
        วันนี้ฉันก็คือปุถุชนธรรมดาที่มีปัญหาที่เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่กับความเป็นตัวตน เพราะฉันกลัวตัวเองต้องผิดหวังจากสิ่งที่คาดหวัง ฉันกลัวว่ารักครั้งนี้จะจากฉันไป ฉันอยู่เพื่อตัวเองจริงๆ ฉันเข้าใจมาตลอดว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกมันคือภาพจริงแต่เมื่อมองให้ชัดด้วยปราศจากอคติฉันพบว่า มันคือภาพเสมือนที่ก่อให้เกิดทุกข์มากกว่าสุข ฉันอยากอยู่เพื่อคนอื่นแต่ฉันไม่มีใครรอบตัวฉันมีแค่ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งมันมีแต่เธอทั้งในมโนจิตและเส้นขนานความฝัน ถ้าเธอได้รู้ความจริงจากวันนั้น ฉันไม่ต้องการสิ่งใดฉันอยากมีชีวิต มีอนาคตอยู่เพื่อเธอ มันได้หมายความถึงการแบ่งปันทุกอย่าง ความฝันความผิดหวัง ความสุข รอยยิ้ม น้ำตา ความภาคภูมิในสิ่งต่างๆที่เป็นฉันเป็นเธอและเป็นเรา ฉันไม่อยากมีความรักที่เห็นแก่ตัวหวังแต่ความสุขของตัวเองอีก จากนี้ฉันจะทบทวน เรื่องราวของเราด้วยความจริง ฉันไม่อยากตกอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวทางจิตใจอีก ฉันมาไกลเกินกว่าจะกลับไปในเส้นทางที่ลาดเอียงในระดับธรรมดา มันเริ่มสูงชัน มันเริ่มเหน็บหนาว ฉันแค่อยากมีใครซักคนมาเคียงข้างในเวลาที่ต้องการ คงเหมือนเธอที่มีระยะห่างช่องว่างที่หายใจไม่รดต้นคอกันนัก ฉันเข้าใจทุกอย่าง แต่อารมณ์เท่านั้นที่ทำให้ฉันเดินไม่ตรงทาง จะเดินต่อไปให้มีคุณค่าเหมือนที่หวังไว้ แค่มีเธอขนาบข้างไป ตามระยะใจที่ไม่ใกล้เกิน ขอโทษที่มีแต่คำว่าฉันจนฟุ่มเฟือย รู้ใช่มั้ยว่าความรักทำร้ายฉันแต่มันคือความสุขเดียวที่มีอยู่ทั้งชีวิต เพราะฉันรักเธอ

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คือคำว่ารักและขอบคุณ

หลายวันที่ฉันต้องต่อสู้กับความคิดถึง และจบลงด้วยความพ่ายแพ้เมื่อเราเกือบไม่ได้พบกัน 


ขอบคุณแสงเทียนในตะเกียงแก้วที่ส่องสว่างกระจ่างบนใบหน้าเราบนผืนน้ำขนาบด้วยโต๊ะเคล้าเสียงดนตรีที่อบอวลไปด้วยมนตราแห่งรัก


ขอบคุณดวงดาวทุกดวงที่เรามองเห็นไม่ไกลจากผืนโลกที่มีเพียงเราเคียงคู่ในวันพิเศษที่รอคอยกว่าสัปดาห์


ขอบคุณลมหายใจที่รวยรินรดต้นคอเราที่ทำให้ได้กลิ่นฟีโรโมนพุ่งพล่านจนยากต่อการปฏิเสธโซ่เสน่หาในเธอ


ขอบคุณน้ำตาและเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้เธออ่อนโยนและเข้มแข็งในคราวเดียวกัน


ขอบคุณเวลาดีๆที่เราได้พบกันอาจปนความทุกข์ของผู้คนมากมายแต่คุณค่าของการพบเจอเราไม่ได้เบียดบังผู้ใดเพราะใจเราปรารถนาในสิ่งเดียวกัน


ขอบคุณเยาวธิดาที่สร้างความแตกต่างในจิตใจให้กับผู้ชายที่แสนธรรมดาได้กลับมาอยู่ในเส้นทางของคนปกติสุขอีกครั้ง


ขอบคุณความรักที่ทำให้เราได้สบสายตากันในค่ำคืนที่เดียวดายแต่มีความหมายมากล้นกับนิยามที่เราต่างรู้ดี

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แล้วมันจะผ่านไป แล้วเราก็ได้รักกัน

             จากวันนี้จะขอ ทำทุกอย่างให้เป็นรางวัลชีวิตเธอ...
             ตลอดไปจากนี้ทุกวัน ฉันจะทำเพื่อเธอ...


             วันทีเล็บมือยาวเกินกว่าจะหยิบจับทำอะไรให้ถนัดถะหนี่ นานมากแล้วที่ไม่เคยปล่อยให้เล็บมือยาวเกินจะต้องตัดคงเพราะต้องมีสิ่งอื่นที่ต้องทำมากมาย มากกว่าการกลับมามองดูแต่ตัวเองเหมือนที่เคยมา การได้มาอยู่เพื่อคนอื่น อยู่เพื่ออีกหลายชีวิตได้ดำเนินต่ออย่างไม่ลำบาก เป็นสิ่งที่มีคุณค่าหาที่เปรียบไม่ได้ในสภาวะการณ์เช่นนี้  การมองภาพฉายของอนาคตอันใกล้ที่เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่เบื้องลึกยังคงมีสิ่งซ่อนเร้นที่ต้องศิโรราบต่อเหตุและผลบวกกับวาสนาที่ทำมาจริงๆ 
              การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของเราจะเกิดขึ้นเมื่อใดไม่มีใครให้คำตอบ อาจไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนคนอื่นๆด้วยเหตุและผลหลายอย่าง แต่สัญญาได้ไหมว่าจะยังมีกันเคียงข้างกันแบบนี้ไปจนวันนั้นมาถึง วันที่เราได้บินสู่อิสรภาพของเราที่เข้าใจ ปล่อยให้เวลาพิสูจน์หัวใจเราครั้งหนึ่ง...ว่าเรายังรักกัน...รึป่าว

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รู้สึกไหมว่าใจของเราตรงกัน

ตั้งแต่เมื่อฉันรู้จัก และฉันได้มาพบเธอ
มันทำให้ฉันต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงหัวใจฉันไป
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
เพราะสำหรับฉันแต่ก่อน ความรักคือการคว้ามา
แต่ในวันนี้ฉันเปลี่ยน ความรักคือการให้ไป
เพิ่งจะรู้และเข้าใจ เมื่อฉันได้มารักเธอ

คืนที่คำถามและคำตอบบางอย่างพรั่งพรูออกมา ให้ใจที่ว่างเปล่าได้ชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา ไม่เฉยชากับเวลาที่ผ่านและปลดปลงต่อความคืบหน้า ดีใจที่ฟ้ายังมีหนทางให้เราก้าวเดินต่อไปบนความคาดหวังที่จะทดสอบสิ่งใหม่เพื่อย้ำความปรารถนาที่อยู่ภายในให้หนักแน่นขึ้น ฉันรักเธอ ได้ยินไหม...ไม่ต้องหาที่มาและความหน่วงเวลาในความรู้สึก เวลาไม่สำคัญอีกต่อไปจากนี้ไปแค่อยากพบเจอหน้าเธอ คิดถึงนะคะ

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ได้มีวันเวลาดีๆเพราะมีเธอ

           ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง  ฉันจึงมาหาความหมาย  
           ในคืนไร้ดาวพร่างพราย  สุดท้ายไร้ฝันพันดาว


           วันที่ใครหลายคนรู้ข่าวว่ากว่าครึ่งประเทศหยุดยาว แต่หน้าที่ก็ยังคงดำเนินต่อไปพร้อมกับความคิดถึง ความจริงที่สุดของการเดินทางอันแสนไกลเพื่อที่จะมาหยุดนิ่งอยู่กับสิ่งตรงหน้า ภาระงานที่เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า เพราะได้ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ที่สาหัสของผู้คนที่มาพึงใบบุญจากสถานที่ จากเครื่องไม้เครื่องมือ กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่สะดวกนักในยามที่หลายชีวิตต้องมาเผชิญชะตากรรม พรุ่งนี้ฉันยังคงดำรงชีพด้วยความยังประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ยังประโยชน์ต่อจิตใจตนเอง ความไม่ทุกข์ร้อนต่อสิ่งเบื้องหลัง ตั้งแต่วันวานฉันได้ทำดีที่สุด ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก่อนนอนทุกวันฉันได้ตรึกตรองถึงคุณค่า ภาพที่เห็น นาทีชีวิต ความยังชีพคือสิ่งล้ำค่า แม้อ่อนล้าต่อแดดจ้า แต่ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่เสียสละกว่ามาก เช่นเดียวกับผู้ที่รอคอยความหวังอันเลือนลาง และเริ่มทำใจกับสิ่งคุ้นชินของคนไทยตลอดสามเดือนที่ผ่าน อีกไม่นานคงถึงจุดแตกหักของเหตุการณ์ ทั้งธรรมชาติและชีวิต


           วันที่น้ำเสียงสั่นเครือ จุกอกเพราะเรื่องราวมากมาย แต่แค่ได้ยินเสียงใสๆจากที่ไม่ห่างไกลกันฉันกลับมีพลังชีพเพื่อหัวใจและวันพรุ่งนี้อย่างประหลาด คงเป็นเพราะความรักที่เอ่อล้นจนไม่มีข้อแม้ของใจ คิดถึงเธอที่แสนดี...
           

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พระจันทร์ที่นั่นเป็นเช่นไร

      ไม่มีชีวิตใดมีความสุขเท่าการได้ค้นพบว่าความพอดีเหมาะเจาะทางอารมณ์ กายภาพ ดุลยภาพความต้องการของร่างกายและจิตใจที่ใฝ่หาความสุขอย่างง่าย มันถูกจัดวางไว้อย่างหลวมๆท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติของเหตุการณ์ เมืองที่แวดล้อมไปด้วยมวลน้ำที่พร้อมทะลุทะลวงเข้าหาในทุกด้าน อีกฟากฝั่งของหัวใจยังคงอิสระเสรีตามแต่ใจเธอได้โบยบิน ไม่มีแรงกดดันคาดหวังสิ่งใด อยู่เพื่อหน้าที่ทำตามหัวใจที่พอเพียง รับผิดชอบต่อสิ่งสำนึก ต่อสังคมที่หวาดหวั่น ได้เห็นเธอมีความสุขอยู่กับธรรมชาติที่ผ่อนคลาย แม้อาจไม่ได้พบเจอแต่สัมผัสได้ถึงความสุขที่เธอได้รับและเติมเต็มมันอย่างง่ายๆในวันหยุดที่หลายคนผ่อนพักตระหนักรู้ถึงความต้องการภายใน คงอยู่ในจุดที่มันสมควรดีเหมาะ  ฉันเหม่อมองพระจันทร์คราใดแม้ในรูปภาพก็อดคิดถึงใบหน้า สีสันแววตา ท่าทางที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกัน รู้บ้างไหมแค่เราใกล้ชิดแม้ไม่ได้ก่ายกอด ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการสิ่งใดีอีก อาจไปถึงจุดสูงส่งในสักวันแต่ไม่มีอะไรสลักสำคัญเท่าการกลับมาอยู่กับความรู้สึกระดับสามัญ ที่ทำตามความเป็นมนุษย์สัญชาตญาณของความโหยหา คิดถึง ห่วงใย เข้าใจ ในวันที่คลื่นซัดใจ น้ำหลากไหล เอาความทุกข์ยากมาเยี่ยมเยือน เพื่อทดสอบแก่นใจของมนุษย์ ฉันรักและคิดถึงเธอ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ง่ายต่อการเข้าใจในสภาพสามัญปุถุชนที่ไม่อาจสร้างแนวกั้นทางความรู้สึกต่อไปได้อีก 


   วันที่ความสุขของเธอ อยู่ไกลฉัน วันที่นอบน้อมต่อความสัมพันธ์ วันที่พระจันทร์อยู่ในใจของเรา

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

2 พยางค์ กับ ความคิดถึง

อ่อนล้า/ คิดถึง/ โรยรา/ สายตา /อยากพัก /ไม่ร้อน /ไม่หนาว /ชาชิน /เดียวดาย /ติดกับ/ กับดัก /เวลา /นาที


กายา/โหยหา/ เพลา/ เงียบหาย/ สับสน/ การงาน /ช่วยเหลือ /สงสาร /ไม่รับ/ ติดต่อ /เข้าใจ/ วิญญาณ /


หลับฝัน /คืนวาน/ฝันร้าย/ หลอกหลอน/ ร่วงหล่น/ ในฝัน /ฟันหลุด/ อีกครั้ง/ สังหรณ์ /บอกเหตุ /ไม่ทราบ


ใคร่ครวญ/ ครอบครัว/ รำคาญ / เวลา /ส่วนตัว /ของเธอ /ระยะ /ที่ว่าง /ห่วงใย/ ใส่ใจ /รักใคร่ /ไม่เห็น/หน้าตา


เลือนลาง/ จางหาย/ ติดตรึง /รอคอย /ปลงตก /คงเดิม/ เท่าเดิม/ คาดเดา/ สายตา /ท่าทาง /พรุ่งนี้ /ยังคง


คำนึง/ ห่วงหา/ แม้ว่า/ พบพาน/ ผ่านไป /สำคัญ / จิตใจ /คาดหวัง/ ทุกข์ทน /ปล่อยวาง/ผ่านพ้น /สุขใจ/


 ยิ้มได้/ ใฝ่หา/ เธอคือ/ ดวงใจ /ของฉัน/ เป็นพอ

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วันที่เราอยู่ไกลคิดถึงฉันบ้างไหม "คนดี"

             ยิ่งสัมผัสเข้าใกล้ความยากลำบากที่เกิดจากการทวงคืนของธรรมชาติ ได้สัมผัสถึงกลิ่น ภาพ เสียงร้องระงม บ้างคนบ้างหมา โอดโอยจากบาดแผลความเจ็บปวดสูญเสียทรัพย์สิน และบาดแผลทางร่างกาย ทำให้จิตตกไปบ้างตามการคาดเดาก่อนหน้านี้ ไม่คิดว่าใกล้เมืองกรุงเพียงนิดจะได้เห็นสภาพที่ย่ำแย่ ไม่มีใครหอบหิ้วเอาสิ่งของมีค่าออกมาได้โดยง่ายมีเพียงชีวิตและสัตว์เลี้ยงเป้ใบโปรด เท่านั้นจริงๆ สุดท้ายความยังชีพก็สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด การได้เป็นฟันเฟืองเล็กๆในการหยิบยื่นเครื่องมือที่ตนเองมีอยู่ไปแบ่งเบาความทุกข์ร้อน ก็ทำให้สุขใจไปพร้อมกับอารมณืสลดหดหู่ ฟ้าหลังน้ำใหญ่ครานี้คงมีสิ่งเปลี่ยนแปลงมากมายใต้แผ่นดินที่เราเหยียบย่ำทุกวัน 
            การจากมาห่างไกลจากกระแสเชี่ยวกราดของเรื่องราวครอบครัวมากมายที่ยังครุกรุ่น กระแสเชี่ยวกราดของสายน้ำ การปรุงแต่งของจิตใจ ความเห็นแก่ตัวคนที่รายรอบ ไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวสิ่งใด ทุกคนล้วนต้องรับผลของการกระทำทั้งสิ้น เราเองคงได้แต่เฝ้ามองอยู่ตรงกลางของเรื่องราวไม่เอนเอียงต่อ พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย ทั้งหลายหลาก วันนี้ฉันเหนื่อย ฉันมีเรื่องราวให้คิดมากมาย ฉันมีกำลังแค่นี้ พรุ่งนี้ฉันจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น เพื่อคิดถึงเธอและก้าวต่อไป 


คิดถึงฉันบ้างไหม...คนดี

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ความสุขและความรักโดยสังเกต

                 เช้าที่ไม่มีฝนพรำมา ความเงียบเหงาปนหยาดน้ำตา วันเวลาดีๆกำลังจะจากฉันไป  ไม่อยากตื่นมาพร้อมกับความฝันที่ซับซ้อน เช้าตื่นกับความรู้สึกดีๆที่จางหายไปสวนทางกับแสงอาทิตย์ที่ส่องลอดผ่านหน้าต่าง ชีพจรขับเคลื่อนอีกครั้ง ยังคงคิดถึงเรื่องราวเมื่อค่ำคืนวานผ่านไป ความสุขที่เฝ้าสังเกต คงไปเป็นตามทางที่เป็น ทำได้ดีที่สุดแค่ทำให้เรามีความสุขโดยสังเขป ผ่านบรรยากาศวันที่มีความหมาย เรียนรู้ผู้คนรายล้อมเก่าใหม่ไม่สิ้นสุด การเดินทางของหัวใจสิ้นสุดลง แต่มีบางคำตอบที่ยังตามหาคำถาม ไม่มีใครล่วงรู้ฟ้าดินแม้แต่เอกภพที่ไพศาลไม่อาจบอกกับตัวเองได้ว่าตัวข้าจะถึงวันสิ้นสุดวัฎจักรในระบบดาราจักรได้ฉันใด เศษฝุ่นมนุษย์ในดาวโลกตัวเล็กๆคนนึงก็คงไม่อาจบอกได้ถึงสถานะอนาคตที่วนเวียน สิ่งเก่าจากไปเพื่อรอคอยการมาใหม่ เฝ้ามองบทสนทนามากมายไม่มีความหมายเท่าสิ่งภายใน ความสุขที่สังเกตคือเพียงได้อยู่กับคนที่เรามีความสุขโดยไม่มีข้อแม้ถึงการต่อต้าน ธรรมชาติที่จะบอกว่าคนที่ใช่อยู่ใกล้ๆแล้วเป็นยังไง อยากหยุดความคิดที่มีเพียงแค่นี้ได้ไหม การเดินทางระยะไกลครั้งสุดท้ายมาถึงแล้วจริงๆ 


ฉันเชื่อคุณค่าจิตใจนั้นเหนือกว่าสิ่งไหน...

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แสนดีชีวิตของเราแสนดี

          สุขสันต์วันเกิด HBD ถึงฉันจะไม่ได้เจอแต่อยากส่งผ่านเพลงนี้ไป  
          สุขสันต์วันเกิด HBD ขอให้เธอมีความสุขเท่านั้นฉันก็สุขใจ


          วันที่แสนดีกับสิ่งเชื่อมโยงของเรา มีถ้อยคำมากมายที่สื่อถึงความรู้สึกแต่ไม่อาจบดบังความเที่ยงตรงของสิ่งที่จัดสรรโดยโลก ธรรมชาติ ความสุขที่กำลังเลื่อนลอยอยู่นี้อาจมีเส้นสิ้นสุด วันที่ความรู้สึกหนักแน่นชัดเจนพร้อมเปลี่ยนผ่านการยึดถือในใจที่ต่างก็รู้ ดูเหมือนไม่มีสัญญาณตอบรับแต่ฉันก็เฝ้ารอคอยให้วันนึงมีคำตอบสำหรับทางที่ดีที่เราต่างจะเดินไป  วันไหนที่ไม่มีเวลาแม้ไปพบเจออยากให้รับรู้ ถึงความเศร้าที่แฝงเร้นอยู่  ความคิดต่อโลกนี้มันไกลเกินคนปกติที่มองกัน มันอาจเข้าใจยาก แต่ก็สัมผัสได้ถ้าเราได้คุยกันแบบที่เป็นอยู่  วันนี้ที่ยังคุลมเครือไม่รู้ถึงจิตลึกซึ้งที่นอนนิ่งอยู่ มีอีกหลายมิติที่ต่าง ความสุขทั้งหมดที่ได้รับมันอาจมากขึ้นถ้าเราปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาติญาณของกันและกัน จะทำให้มันดีที่สุดสำหรับเรา สำหรับเธอ 

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

10 Things สิ่งที่ได้จากความรักขณะนี้


  1.  เวลาที่ผ่านไปแต่ละวันของฉันมีความหมายมากกว่าเดิมเมื่อเปรียบกับวันที่ไม่มีเธอ
  2. การไม่คาดหวังทำให้เรายังคงเดินต่อไปในทางที่เราต่างรู้และสุขอยู่ได้เท่าที่มี
  3. การพบหน้าสบสายตาในวัยที่ล่วงเลยอะไรๆมาพอควรแต่กลับมีสุขมากกว่าเดิมเพราะเธอ
  4. ถ้าวันนึงต้องไม่มีเธอฉันคงขยาดกับความรักแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน
  5. ฉันอ่อนโยน คิดถึงคนอื่่นๆมากกว่าวันที่ผ่านมา
  6. ฉันมีช่วงเวลาที่เป็นตัวเองได้มีเวลาคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่เป็นเราเกือบทุกวัน
  7. ฉันมั่นใจกับความสัมพันธ์ที่ก้าวเดินไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
  8. ไม่มีซักแว๊บที่คิดถึงความสัมพันธ์เชิงลึก เรื่องsexเป็นเรื่องเล็กน้อยมากตอนนี้
  9. ความสุขจากการได้ห่วงหาอาทร มันมีมาโดยที่ไม่ต้องพยายามเหมือนก่อน
  10. ฉันรักในสิ่งที่เป็นเธอโดยไม่ได้ปรุงแต่งความรู้สึกใดๆ และคิดว่ามันเป็นความสุขที่ได้จากรักขณะนี้จริงๆ

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รักกันมีเรื่องราวอีกมากมาย

            อย่าเลยอย่าอยู่กับรักที่เป็นเพียงนิยายสุดท้ายก็จากกัน
            อยากให้เรายังรักกันทั้งรักทั้งผูกพันกันด้วยหัวใจ


            ท่ามกลางความรักและวิถีทางที่เราต่างเดิน ฉันรู้ว่าเมื่อมีจุดเริ่มต้นที่ใดย่อมมีจุดหักเหและจุดดับเกิดขึ้นตามมาเสมอ ทุกวันเฝ้าภาวนากับสรรพสิ่งให้เรายังคงอยู่ในเส้นทางที่เราต่างสร้างกันมาตลอดระยะเวลาสั้นๆ วันนึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ยืนยันความสัมพันธ์ของเราคงมีแค่สีหน้าแววตา และความรู้สึกที่สัมผัสถึง ไม่รู้ว่าถ้ามีสิ่งใดมากระทบความเข้าใจที่ก่อตัวอย่างเรียบง่ายจะทำให้เราหนีหายไปจากกันรึเปล่า ความซับซ้อนของความคิดและความรู้สึกอาจไม่สำคัญอีก ถ้าวันนึงเราได้พูดกันในบรรยากาศที่ง่ายต่อการรับรู้ วันนี้ความอิสระจากตัวของเราอาจทำให้คำว่ารักที่เปล่งออกมาเบาๆในใจมันดังก้องแคบๆในห้องภายในที่เราต่างรู้  ความรักและทุกอย่างที่มีให้มันมากจนไม่อาจก้าวล่วงผ่านสิ่งที่เป็นเธอเลย ความสุขที่ได้รับมันอาจเป็นเพียงสะเก็ดเสี้ยวหนึ่งที่กระฉอกออกมาจากจิตใจของเธอ แต่ฉันรับรู้และอยากอยู่ตรงนี้ไปอีกนานแสนนาน จนใจที่หนาแน่นนั้นเบาบางลง จนเสียงข้างในมันเล็กลอดออกมาให้เราได้รับรู้ในสักวันหนึ่ง







วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทำไมคนคนนึงถึงคิดถึงคนอีกคนนึงได้มากขนาดนี้

              วันที่อะไรๆดูเหมือนเป็นวันสุดท้าย วันที่ทุกคนต่างตื่นตระหนกไปกับเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ วันที่บางคนสูญสิ้น สิ้นหวัง บางคนยังมีความสุขอยู่กับกิจวัตรที่คุ้นเคย บางครอบครัวกำลังเผชิญความสูญเสีย บางอารมณ์ที่นึกถึงก็เป็นเหตุแห่งธรรมชาติ หากนึกย้อนกลับคงไม่มีอะไรเที่ยงตรงซื่อสัตย์เท่าสัญญาจากธรรมชาติที่ ไม่มีคำว่าให้อภัย ไม่มีการลดหย่อน ผ่อนปรน มีเพียงการปล่อยวางและปลงเท่านั้น การต่อต้านไม่เป็นผล ชั่วโมงนี้มนุษย์ต้องถอย ยอมรับและปรับตัว วิถีชีวิตให้เข้ากับธรรมชาติดูจะเป็นแนวโน้มที่ดีกว่า 
         วันที่มีแต่ความคิดถึง คิดถึงคนคนนึงที่ไม่ได้มีสิ่งใดผูกพันกันมากมาย ไม่ได้มีช่วงเวลาร่วมกันที่เนิ่นนาน ไม่ได้มีสัญญาผูกมัดทางความสัมพันธ์ แต่ทำไมเธอถึงทำให้เราเฝ้าคิดเฝ้าห่วงหา ทั้งๆที่ไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนกลับมา มีแค่ความสุขที่ได้ทำได้บอกไปวันวัน ฉันไม่รู้เธอมีความสุขรึเปล่า แต่อยากให้รู้ว่ามันเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างในชีวิตที่แสนน่าเบื่อ แต่แค่เวลาไม่นานทำไมความรู้สึกมันมากมาย ทั้งที่ไม่เคยได้อะไรกลับมาเหมือนที่เคยผ่าน จะเฝ้าคิดถึงไปทำไม จะเฝ้าทุกใจเมื่อไม่ได้เจอไปทำไม ในเมื่อเราต่างก็ยืนยันว่ามันเป็นแค่เพื่อนดี แต่ถึงเวลานี้ไม่มีกรอบหรือนิยามอะไรอีกต่อไป แค่ฉันสุขใจที่เรามีกัน พรุ่งนี้อาจไม่ได้พบอาจไม่ได้เจอกันอีก ไม่สำคัญ ฉันจะบอกว่าคิดถึงเธอทุกวันก็พอ ^ ^ 


เค้าคิดถึงมิ้งน้า...

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง(อีกครั้ง) ?

             การตัดสินใจแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ลางสังหรณ์บอกถึงเวลาที่นับเดินไป ฉันยังมีความสุขอยู่กับช่วงเวลานี้ อย่าเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงได้ไหม อาจเป็นการมองในห้วงเวลาที่ก้าวหน้าเกินไป เวลาที่หัวใจสายตาหยุดนิ่งอยู่ที่เบื้องหน้า คือเธอคนเดียว ทำไมต้องสร้างเงื่อนไขทางความคิด ในเมื่อเราพร้อมที่จะโดดเดี่ยว เลือกทางเดินนี้เองมาโดยตลอด  อาจเร็วเกินไปที่จะมาขบคิด แต่เมื่อ5 ปีที่แล้วฉันเคยคิดว่า... แต่มันก็ไม่ได้เป็นดังนั้น จะแคร์สิ่งใดอีก อะไรจะเกิดก็คงให้มันเป็นไปตามเหตุและผลของกรรมและวาระแห่งโอกาส ที่ทำได้คือ ทำตามสิ่งสั้นๆในเป้าหมายเล็กๆ ถ้าสอบเรียนต่อไม่ติดค่อยคิดอีกทีว่า อาจต้องยอมรับเงื่อนไขจากที่ใดที่หนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตอีกครั้ง คงคิดถึงเธอนะ ถ้าเราอาจจะต้องไกลกัน

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ความอมตะของมนุษย์(ไม่)มีอยู่จริง


           แม้มนุษย์ไม่มีวันเป็นอมตะแต่มนุษย์ก็มีความสามารถในการสร้างสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นอมตะ


ความคิดเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพ ในการเปลี่ยนมวลสารเป็นพลังงาน ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยังมีการศึกษากันอยู่ในมหาวิทยาลัย และแปรรูปไปใช้เป็นโรงไฟฟ้าปรมาณูเป็นพันแห่งทั่วโลก
      
ความคิดที่พระเจ้านโปเลียนบัญชาให้รวบรวมและเรียบเรียงกฎหมายต่างๆ ของฝรั่งเศส ให้อยู่ในรูปแบบระบบที่อ้างอิงได้ง่าย เป็นต้นกำเนิดของระบบประมวลกฎหมายในโลกตราบถึงทุกวันนี้

เช่นเดียวกับ สตีฟ จ็อบส์ สำหรับผม เขาไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงเพราะเป็นนวัตกรหรือพระเจ้าด้าน IT และ แต่เขาคือรากฐานสำคัญคนหนึ่ง ของการทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็น "ของง่าย" หรือ "เครื่องใช้ประจำวัน" เช่นปัจจุบันนี้ Jobs เคยกล่าวว่า "ความตายคือประดิษฐกรรมที่ดีที่สุดของ ชีวิตความตายคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ความตายกวาดล้างสิ่งเก่าๆ ให้หมดไปเพื่อเปิดทางให้แก่สิ่งใหม่ๆ" หลักมรณสติอย่างง่ายที่ทำให้เราไม่ยึดติด ทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าและไม่ประมาท

"เวลาของคุณจึงมีจำกัด และอย่ายอมเสียเวลามีชีวิตอยู่ในชีวิตของคนอื่น จงอย่ามีชีวิตอยู่ด้วยผลจากความคิดของคนอื่น และอย่ายอมให้เสียงของคนอื่นๆ มากลบเสียงที่อยู่ภายในตัวของคุณ และที่สำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องมีความกล้าที่จะก้าวไปตามที่หัวใจคุณปรารถนาและสัญชาตญาณของคุณจะพาไป เพราะหัวใจและสัญชาตญาณของคุณรู้ดีว่า คุณต้องการจะเป็นอะไร"

เพียงประโยคตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับใครหลายๆคน การตายของJobsเทียบเคียงได้กับเอดิสันหรือไอน์สไตน์ แต่อาจอยู่ต่างวาระ มีอีกหลายสิ่งที่ชีวิตนี้ผมอยากทำ มีใครคนหนึ่งเข้ามาทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะทำความฝันเล็กๆของผมอีกครั้ง การที่เราทำทุกวันเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต พรุ่งนี้มันย่อมดีแน่ ผมจะไม่รีรอที่จะบอกว่าคิดถึงเธอ ผมจะไม่สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายความฝัน วันนี้แม้อาจยังไกลห่างจากความรักที่ต้องการ แต่ก็มีความสุขดีที่เราเข้าใจกัน พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็แค่คนตัวเล็กๆ แต่ร่องรอยของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่กลับทำให้เราเต็มเปี่ยมด้วยจินตนาการ ความหวัง และความฝัน อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง 

ขอบคุณแรงบันดาลใจดีๆ และขอบคุณเธอที่ทำให้วันนี้ฉันมีความหวัง ^^





วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สิ่งที่เธอควรรู้แต่เธอไม่เคยรู้

             ทั้งๆที่รู้ ทั้งๆที่รัก
             
             เหมือนฉันอยากถอยออกมาจากทุกอย่างแต่ทุกสิ่งที่ดีกับเธอมันฉุดรั้งไว้ ความรัก ความห่วงใยที่มีมันมากเกินจะหักดิบความสัมพันธ์ของเรา  วันเวลาที่ผ่านไปทุกวันมันเติมเต็มทุกอย่างโดยไม่รู้ตัวจริงๆ ยังนึกไม่ออกถ้าที่ผ่านมาเราไม่มีกัน ฉันจะรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ไม่อยากคิดฝันอะไร แค่วันนี้ฉันเหนื่อย เหนื่อยกับความสัมพันธ์ทุกอย่าง แต่ทำไมไม่เคยเบื่อเธอ ไม่เคยโกรธเธอ ทำไมหัวใจเราต้องยอม ฉันรักเธอเข้าแล้วจริงๆใช่ไหม เกือบสองเดือนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป ไม่มีสิ่งที่ดีหรือดีกว่ากับวันที่เจอเรื่องราวไรมากมาย ไม่ได้มีเรื่องรักอย่างเดียวที่ต้องนึกถึง แต่ทำไมตัดช่วงเวลา ความคิดถึงที่มีไม่ได้ซักที มันไม่เคยเป็น ไม่เคยรู้คุณค่าของเวลาการรอคอยอะไรบางอย่าง ฉันยังมีความสุขอยู่รึเปล่า คงทุกข์หนักมากกว่าถ้าวันใดที่ขาดเธอไป ถึงตอนนี้ให้ถอยหรือทิ้งทุกอย่างจริงๆคงทำไม่ได้ อยากควบคุมมันให้อยู่ในทางที่เธอเป็น ฉันขอโทษ ไม่อยากเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เราไม่เข้าใจกันอีก คงเพราะรักจริงๆ ฉันยอม...

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ช้าไปไหมเธอ

 
             ภาพเหตุการณ์ค่ำคืนที่น่าสมเพชในความรู้สึกกลับมาทำรา้ยกันอีกครั้ง ความงมงายที่เกิดขึ้นผลเสียที่ทำให้ทุกอย่างยุติลง ค่ำคืนที่เมามายกับการยืนยันอีกครั้งของความสัมพันธ์บนโลกใบนี้ว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของใครได้อย่างแท้จริง ฉันไม่น่าตามเธอไป รู้ทั้งรู้ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวคือความจริง และสุดท้ายก็ได้ค้นพบว่าความเงียบสงัด หลงทิศทางจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ มันปวดร้าวทั้งหนาวทั้งกลัว ฉันหลับไปจนฟ้าสางก็ไม่พบเจอใคร เธอทำฉันหมดสิ้นหนทาง ทุกเหตุการณ์ที่ทำร้ายกันมันสะสมมากมาย เธออาจไม่เคยรู้ และวันนี้จะมาบอกว่าขอโทษ ยังคิดถึงกันเนี่ยนะ มันสายไปแล้ว ฉันมาไกลมากที่จะย้อนเวลากลับไป กลับไปเจ็บแบบเดิมๆอีก ไม่มีที่ตรงนั้นสำหรับเราอีก เสียใจ แต่ดีใจมากกว่าที่อีกไม่นานเธอคงมีชีวิตที่ดีกว่าวันที่เราดูแลกัน

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ขอโทษที่เราไม่ใช่แฟนกัน

ขอบคุณลางสังหรณ์ที่ผ่านพ้นไป
ขอบคุณที่ทำให้ยังมีทางเดินต่อไปได้
ขอบคุณที่ช่วยเตือนความจำ ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน
ขอบคุณที่เตือนสติให้ไม่ทำสิ่งผิดพลาดอีก
ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าควรอยู่ตรงไหนให้มีความสุข
ขอบคุณที่บอกกันและทำให้ใจสั่นเสียศูนย์
ขอบคุณที่ยังแคร์ความรู้สึกกันอยู่
ขอบคุณค่ำคืนที่ดี ที่ทำให้ฉันมีความสุขตามสมควร
ขอบคุณที่ทำให้มีที่ยืนในการเจียมตัวใกล้ๆเธอ
ขอบคุณเรื่องราวทุกอย่างที่ดำเนินไป


และขอโทษที่รู้สึกเกินเพื่อนแสนดี ทั้งที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน


       

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ด้วยภาระและทางที่เราต้องเดิน

      อยู่ตรงนั้้นเธอคิดถึงฉันมากเท่าไร อยู่ตรงนี้เธอรู้ไว้เลยว่าคิดถึงเธอจนล้นหัวใจ ได้โปรดเธอจงมั่นใจว่าฉันคนนี้รักเพียงแต่เธอ...
      
      ทุกๆวันที่ผ่านไปไม่รู้ว่้าเราจะยังเป็นแบบนี้ได้อีกนานเท่าไร ฉันไม่ได้ต้องการวันที่เราต้องถึงจุดที่มันอิ่มตัวหรือมากมายเท่าที่ต้องการ แต่อยากให้เราได้มีเวลาิคิดถึงกันบ้าง เป็นแบบที่มันควรจะเป็น ไม่ทุกข์ไม่สุขล้นไปกว่าวันต่อๆไป แต่ก็ไม่รู้ฉันจะหักห้ามหัวจิตหัวใจได้มากน้อยแ่ค่ไหน  บางทีความรักมันก็ลึกซึ้งเกินกว่าจะบอกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรจริงๆ แค่วันนี้มีกันอยู่ฉันก็มีความสุขมาก จากนี้ไม่ได้ต้องการอะไรแค่มีพรุ่งนี้ด้วยกันไปตลอด สัญญาว่าจะมีแต่วันดีๆให้กันนะ ^^