วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชีวิตอัตนัย

จงก้าวผ่านชีวิตปรนัย Multiple choice ให้ได้

เป็นอีกเช้าที่ไม่อยากตื่นไปพบเจอหน้าใคร อยากหายไปจากโลกนี้
เมื่อวานกับความหดหู่ทางจิตวิญญาณ เมื่อเขามาก็ไม่เหลือเรา

เธอกับเขากับรักของเรา(จบขาดการติดต่อเพราะคนของเธอมา)จะเป็นไปได้อย่างไร

เฮ้อเมื่อไรจะหลุดออกจากชีวิตปรนัยทางหัวใจวะเนี่ย ที่ต้องเป็นตัวเลือกให้คนอื่น
ก็ไม่อยากต้องให้ใครมารับภาระทางอารมณ์และตัวตนนี่หว่าก็ต้องยอมแลกให้ได้มาเพื่อความต้องการบางอย่าง

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สิ่งดีๆที่ผ่านมาตอนนี้

นานที่ไม่มี sms จากบุคคลนอกเหนือจากโฆษณาทางมือถือ เอ๊ะรึจะเกิดเหตุอุบัติภัยทางหัวใจ บ้าน้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว แต่มึงชอบไม่ใช่เหรอพวกแฟนชาวบ้านเนี่ย ตัวขาวและดำต่อสู้กันอีกครั้ง พอๆๆ ยั้ง

สรุปว่า แฟนเค้าเราไม่มีสิทธิ์ แต่ถ้าจีบติดก็เป็นสิทธิ์ของเรา จบ

พรุ่งนี้เราจะได้ไปกินนมด้วยกันรึป่าว ฟังจากน้ำเสียงเหมือนคนของเธอจะมา เมื่อไรจะสลัดความรู้สึกนี้ออกไป ปากบอกปลง แต่คงทำยาก

เมื่อวันที่ข้างทางรายล้อมไปด้วยความธุรกันดารของขวากหนามของกิเลสตัณหา ต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็นในใจของเราเอง จะมีใครบ่งบอกถึงที่สุดแห่งหนทางฟ้าใสใต้เงามืดมัวระหว่างสิ่งแวดล้อมกับจริยธรรมด้านมืด ไม่รู้ ไม่รู้ 

ข้อความแสดงออกถึงความห่วงใยที่มีในตัวอักษรทุกตัว
การที่ใช้นิ้วกดแป้นมือถือ มันสั่งมาจากสมองส่งผ่านมายังกล้ามเนื้อลายบริเวณแขนและนิ้ว Reaction ต่างๆของเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อ จะมีซักเส้นมั้ยน้าที่ถ่ายทอดมาจากหัวใจ...สิ่งที่ดีที่ผ่านเข้ามาอีก1ตัวละคร

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นับถอยหลัง Into the countdown

ค่ำคืนลูกทุ่งวิจิตร ไม่เหมือนดั่งที่ตั้งใจไว้ ผู้คนมากมาย ไร้ความคึกคักเพราะผูกติดกับความคาดหวังมากจนเกินไป กลับมานั่งร่ำ น้ำสีอำพันในห้อง กับฟุตบอลทีมโปรดคงเป็นความสุขในรูปแบบที่คุ้นเคย

การนับถอยสู่อนาคตที่เปลี่ยนแปลง รอยต่อ ร้าวลึก หนทางที่มืดมนแต่สว่างไสวทางอิสรภาพ ขัดแย้งมิติทางสังคม หมดไฟแล้วกลับชีวิต"คนรับจ้างสอนหนังสือ" แล้วสิ่งที่ร่ำเรียนมาเพื่อ? ไม่มีคำตอบ มันขัดแย้งตั้งแต่แรกเริ่มจนมันมาไกลเกินที่จะกลับไปแก้ไข แต่ชีวิตที่ไร้ซึ่งสิ่งจูงใจ ก็คงต้องทำตามใจตัวเองบ้างคงไม่ผิดอะไร หันกลับไปมองผู้คนที่ห่วงใย ก็ไม่รู้จะหาคำตอบให้พวกเขาเหล่านั้นอย่างไรกับชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป

อิสระไร้เกียรติและศักดิ์ศรี ก็ยังดีกว่าผูกติดกับความคาดหวังของผู้คนสังคมและคนรอบข้างที่เมื่อถึงเวลาวิกฤตกลับไม่มีสิ่งใดตอบแทนในมุมของจิดและแรงบันดาลใจ ขอพลังจงอยู่กับท่านที่แสวงหาความอิสรชนทางความคิดและชีวิตที่ไร้ขอบเขตจำกัดทางสังคมแนวตั้ง...

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Try

รออย่างนั้นรอให้ฝันเป็นจริงสักครั้ง รออย่างนั้นก็ไม่รู้สักที ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจจะรู้ได้ไงว่าเราจะไปได้ไกลซักเท่าไร

วันที่หัวใจห่อเหี่ยวโหยหา หักเห ไปตาม แสงสี สรรพสิ่ง สังสรรค์ แต่ไร้จุดหมาย สุดท้ายก็คงต้องกลับมาเป็นแบบเดิม ว่างเปล่า เศร้าสร้อย ปลดปล่อยความเหนื่อยล้า ทุกๆอย่างแล้วนับหนึ่งใหม่ในวันที่ฟ้าสีเทา

ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ยังคงคิดวกวนอยู่ ทำไม ๆๆ เฝ้าถามตัวเองเรื่องเดิมๆ
จิตตกแล้วตกเล่า เข้าสู่หุบเหวใต้ทะเลดิ่งลึกไม่หวนกลับ อะไรทำให้เป็นแบบนี้
รู้อยู่แล้วแต่เพรียกหาเพื่อหวังว่าจะมีมือใครซักคนเข้ามาหยิบยื่นเพียงปลายก้อยแต่กลับว่างเปล่า ขัดแย้งหลีกหนีออกไปจากจิตใต้สำนึก

วันนี้ไม่ขอคิดอะไรนอกจากร่ำ เมรัยไปกับอากาศและลมแห่งเหมันต์เคล้าเสียงพูดคุย กับคนเคียงข้างที่มีพันธนาการ ไร้รูปแบบความสัมพันธ์ อีกวันที่อาจจะมีความสุขหลงเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยว

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แตกแยกทำให้แปลกแยก

มีผู้คนอีกมากมายที่มีเส้นทางที่แตกแยก แปลกแยกทางมิติด้านชีวิต ความคิดและสังคม แต่จุดเล็กๆเสี้ยวนึงของรอยร้าวกลับพบเจอกับอณูของความขมขื่นซอกซอนอยู่ในด้านนึงของความคิดที่เป็นตัวจุดประกายความบอดอ่อนด้อยทางสังคมเชิงเปรียบเทียบ ไม่ต่างอะไรก็บผู้พิการทางเส้นเลือดสมองส่วนของความอบอุ่น นี่เป็นผลกระทบที่ซ้อนเร้นอยู่ในซอกหลืบของจิตใจคนหลายต่อหลายคนแต่ไม่มีใครยักแสดงออก ถึงความพิการในส่วนที่ว่า

ความเข้าใจในส่วนนี้ถือว่าสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่มันกลับไม่มีประโยชน์อันใดกับบางคนที่ไร้ซึ่งความทะเยอทะยานทางความคิด ทางชีวิต และ ทำตัวให้เป็นเส้นขนานไปกับกลุ่มคนสังคมนิยม


บทความจาก สำนักพิมพ์ คนแนวนอนสอนคนแนวตั้ง (หาซื้อได้ที่ชานชลา ที่3 1/2 สถานีรถไฟไปหา harry พ่อมึงเต๊อะ)

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บนรอยต่อมีรอยแผล

บนรอยต่อมีรอยแผล จากวันที่แพ้ล้มลงหมดกำลัง บางเกินกว่าจะทานไหว หากเธอไม่พร้อมจะรับมันจากนี้ เกินคำอธิบาย...

สิ่งดีๆที่ผูกพันทุกวันที่เราอยู่  ต่างก็รู้แค่เวลาที่เราห่าง ต่อเติมวันที่ผ่านมาทุกรอยที่เราต่างในความหมายลึกเกินคำอธิบาย

วันที่เราหลอกตัวและหัวใจหลอกทุกอย่างรอบตัวหลอกความเป็นจริงอยู่กับความว่าง ความฉ้อฉลต่อความสัตย์ ฝืนความเป็นไปของสังคมแหวกกฏเกณฑ์ที่เห็นและเป็นครรลองของผู้คนส่วนใหญ่ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่มืดและหนาวเหน็บแบบที่เราต้องการมันจะต้องเจอรอยต่ออีกเท่าไรถึงจะเจอสิ่งที่มาผสานรอยแยกเหง่านี้ให้สมานกลับมาเป็นเหมือนเก่า ...

คืนนี้คนมากมายต่างเฉลิมฉลอง อยู่กับผู้คนที่รักแต่เรากลับปลีกวิเวกจากปฎิสัมพันธ์ เข้าสู่วังวนของอารมณ์ นี่คงเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่งที่ยากนักน้อยคนจะเข้าใจและสามารถสัมผัสมันได้...

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คืนเดือนเพ็ญ

อีกวันที่ใจเหงาเปล่าเปลี่ยว ไม่มีอะไร ไม่มีใครติดต่อ ไม่มีแม้ปฎิสัมพันธ์จากเสียงและโสตประสาท ว่างเปล่ากับจิตใจว้าวุ่น คิดถึงแต่แฟนคนอื่น ผู้คน โคมไฟรายล้อม เสียงพลุดังกึกก้อง แสงไฟสดสวย ผู้คนคึกคัก แต่มันเหมือนขาดอะไรไป ในหัวสมองและหัวใจว่างเปล่า กลับมาที่ห้องสี่เหลี่ยม ก็ไร้เงาคนเคียงข้าง อยู่หน้าจอ รอด้วยใจโหยหาแต่ก็ไร้วี่แววของความกรุณาจากสิ่งเล็กๆที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจ ไม่มี ไม่มี เพราะมันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว รึจะแค่หยุดไว้เพื่อรอเชื้อไฟมาต่อเติม


ความคาดหวังเกิดขึ้น มันจะเกิดทุกข์ ก็รู้อยู่ยังปล่อยไอ้ความคาดหวังหลุดลอยออกมาจากเบื้องลึกของพันธนาการ พอๆๆๆพอแล้ว

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เข้าใจปอนะ

ฉันเข้าใจอะไรๆได้ดีเสมอ ไม่ต้องห่วงนะคะปอจ๋า บอกแล้วไงเรื่องของเราจะคิดถึงแค่วันนี้ พรุ่งนี้ไม่รู้มันจะเป็นยังไง หลับตาตื่นมาจะคิดถึงปอทุกวัน วันใดที่ไม่ตื่นก็คงจะไม่ได้คิดถึงปออีก

วันที่อยู่กับตัวเองและงานก็ยังคั่งค้างออกไปพบเจอผู้คนมากมายแต่กลับเหงาเดียวดาย อะไรมันหายไปจากหัวใจของเรา


มองไปที่ฟ้าไกลที่ดวงดาวคู่นั้นดวงตาของฉันเฝ้ามอง แสงที่เธอสัมผัสเชื่อมความคิดของเราให้ถึงกัน

เมื่อไรที่คิดถึงฉันให้รักแทนดวงตาฉันจะมาเจอเธอที่หัวใจ
ขอให้ปอมีความสุขในวันพิเศษกับคนที่ปอรักนะแล้วเราคงได้พบกันในเวลาที่เราต่างก็รู้ดี
ว่าไม่มีความคาดหวังอะไร แต่ในใจมันร่ำร้อง...บาย คิดถึงปอเสมอนะ (ดวงดาวที่นิ้วก้อย)

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สุดท้ายก็เหงา

สุดท้ายและสุดท้ายและสุดท้าย อะไรที่มันไม่ถูกไม่ต้องก็เป็นไปตามครรลองของมันที่ควรจะเป็น สุดท้ายปอก็อยู่กับคนของเธอในวันเทศกาลที่คนค่อนประเทศให้ความสำคัญแต่เราก็คงอยู่กับความสิ้นหวังท้อแท้ทั้งเรื่องวิทยานิพนธ์ที่พยายามอย่างเต็มที่แต่ก็ยังไม่สำเร็จซักที เรื่องราวที่ผ่านมามันมีลำดับขั้นของความผิดหวังมาเป็นระยะๆทำไมต้องประเดประดังเข้ามาในช่วงเวลา ฤดูกาล และสภาวะที่มันยากจะฝ่าฟันขอนอนหลับพักซักวันเพื่อที่จะตั้งสติ พักหัวใจ พักตับไตไส้พุง ทุกอย่างสายตาที่ว่างเปล่ามันบีบรัดคิ้วที่แน่นขมวดปมมาหลายวัน ผ่อนพักตระหนักรู้ถึงความทุกข์สุขที่เป็นไป

ปอจ๋าไม่อยากอยู่ในวังวนของความคาดหวัง หวังในสิ่งลมๆแร้งๆ แต่จะทำยังไงได้เมื่อชะตาฟ้าลิขิตให้เราต้องมาทำผิดร่วมกัน แม้เป็นแค่ทางใจก็ตาม ฟ้าจ๋าฟ้าบอกทางออกของความสัมพันธ์นี้ทีไม่นานแต่ทำให้เกิดปฎิกิริยาทั้งในและนอกใจต่างๆนานๆ ปอได้โปรดอย่าทำให้เป็นแบบนี้เลย คิดถึงปอนะ

ปล.เธอคงจะมีความสุขกับสิ่งที่มันเป็นความถูกต้อง ขอให้มีความสุขในสามวันยี่เป็งนี้นะคะ แม้จะต้องเจ็บช้ำเหงาเดียวดาย จะไม่โทรหาละนะ เข้าใจจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อีกหนึ่งอาทิตย์ที่หนักหนาสาหัส

นับไปอีก7วันที่ไม่ธรรมดาที่เราจะต้องผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยการมีสติ ความพร้อมหลายๆอย่าง ขอพลังจงอยู่กับตัวเราและท่านนะ อะไรที่มันจะถาโถมเข้ามาก็ขอให้ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี มันไม่มีเวลาให้เรารอคอยอีกแล้ว ต้องบอกตัวเองซักทีว่า ต้องทำให้เสร็จ และบริหารทุกอย่างให้แล้วเสร็จในเวลาที่จำกัด ปอจ๋าขอกำลังใจหน่อย รู้มั้ยว่าใจอ่อนแอทุกครั้งที่เราได้พบกัน แต่จะขอดึงมันมาเป็นกำลังใจเล็กๆให้ก้าวผ่านสิ่งต่างๆในช่วงเวลาสำคัญนี้ ขอเถอะขอนะคนดี อย่าเพิ่งเดินหนีไปไหน

ขอแค่เสียง คำพูด เล็กน้อยจากเครื่องมือที่ชื่อว่าโทรศัพท์ ก็เพียงพอต่อลมหายชายในเงาจันทร์คนนี้แล้ว ฝันดีนะคะ

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตื่นแต่เช้า ปลุกตัวเองด้วยเพลงเพราะๆซักเพลงนึง

ตื่นแต่เช้า เพราะมีเสียงปลุกจากลำพูน หรือเธอกำลังรักษาน้ำใจหรือ เธอได้ใคร่ครวญถึงสิ่งต่างๆที่ดีๆตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาแล้วมันเป็น effect ที่เราได้รับ แต่ถึงจะเกิดจากอะไรก็ช่างมันก็เป็นสิ่งที่ดีๆที่เกิดขึ้น แค่ความสุขจากเสียงโทรศัพท์เล็กน้อยก็ทำให้จืตไร้สำนึกได้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล ไม่ว่าเธอนั้นจะตอบสนองด้วยจิตใต้สำนึกหรือจิตสึกนึกระดับก็ตามมันคือสิ่งที่เราโหยหาไม่ใช่หรือ หรือจะเป็นการประคับประคองความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลกันแน่ มีอะไรที่เราพอจะช่วยเหลือในสิ่งที่ดีๆเราก็เต็มใจอยู่แล้วไม่ต้องห่วงและคำนึงถึงมารยาทนับจากนี้ ขอให้จิตใต้สำนึกของเธอที่อยู่กับเราจงทำหน้าที่ของมันต่อไป ถึงในความเป็นจริงแล้วจิตสำนึกของเธอจะผูกติดกับคนรักของเธออย่างแยกกันไม่ออก แต่ขอแค่เสี้ยวนึงของความคำนึงคิดถึงสิ่งที่ดีๆระหว่างเราบ้างในบางเวลา ก็พอ...

Sub conscious mind in My mind and you นะคะ ปอ

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความสัมพันธ์แบบกราฟเส้น

ขึ้นๆลงๆกระชากอารมณ์รักให้แหลกเหลวไปตามใจเธอจริงๆเล๊ย
ปากก็พร่ำว่าเพื่อนแต่ที่เธอกำลังแสดงออกมันทำให้ใจเตลิดไปถึงไหนต่อไหนรู้บ้างมั้ยว่าคนที่ไม่มีใครมันเป็นเอามากนะ แต่เธอก็ยังอยู่กับคนของเธอ ไม่ได้โทษเธอที่ทำแบบนี้เพราะมันก็เหมือนเป็นการหล่อเลี้ยงหัวจิตหัวใจของคนตายซากให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา แต่มันขาดๆหายๆ เกินๆไม่พอดีซักทีกับความสัมพันธ์แบบตลาดหุ้น แล้วเมื่อไรล่ะอีก ปีอีก2ปี หรืออีกกี่ปี ในทางทฤษฎีแน่นอนมันรอได้ แต่ในทางปฎิบัติแล้วจิตใจ บรรยากาศ ความเหงา และสิ่งจูงใจมันเป็นปัจจัยแวดล้อมให้เราทำไม่ได้

ปอจ๋าทำไมต้องเข้ามาทำให้เค้าต้องเป็นแบบนี้ คืนความอ้างว้างเดียวดายที่ไร้ความโหยหา และคิดถึงแต่ปอคืนมาได้มั้ย ถ้าไม่คืนมาก็ขอให้เก็บไว้แนบกายขนาบไปข้างใจปอนานๆนะ

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เทศกาลเล่นดนตรีการกุศล

เล่นดนตรีแบบนี้ก็ทำให้ไม่ต้องคิดไรมากดี ไม่ต้องมีเวลาคิดถึงแฟนใคร รู้ว่าเค้าก็ยังอยู่กะแฟนจะโทรไปทำป้าไรมึงเนี่ย หาเพลงไปเล่นพรุ่งนี้ดีกว่า 

ดนตรี ความฝัน ความสุขที่เราสร้างขึ้นเองได้ โดยไม่ต้องเจ็บช้ำ เพราะรักปอ แต่เค้าไม่สนใจ เฮ้อ 

แต่งานหลักคือวิทยานิพนธ์นะเว้ย อย่าลืม ทำๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ถ้าไม่ดูแลตัวเองแล้วแบบนี้จะไปดูแลใครได้

อาหารญี่ปุ่นมื้อแรกของเราและหวังว่าคงไม่ใช่มื้อสุดท้ายนะคะ

ชีวิิตที่ขาดแรงจูงใจ มันกลับมาซู่ซ่ามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากไม่มีใครบ่นใครเตือนมานานแสนนาน
ใช้ชีวิตเสเพล หลงระเริงกับสิ่งที่เข้ามาตลอดเวลา วันนี้เหมือนได้สติ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นยังไงก็ไม่เคยแน่ใจเท่านี้มาก่อนว่ามันใช่ ขนาดแม่และพี่สาวมึงยังไม่ฟังเลยแล้วเธอเป็นใครทำไมถึงหวังดีกับเราจัง แสดงว่าต้องมีนัยสำคัญอะไรบางอย่าง แล้วทำไมเราต้องเชื่อ ต้องฟัง สิ่งดีๆหลายอย่างกำลังเกิดขึ้น แต่สวนทางกับความเป็นจริง เพราะในวันพรุ่งนี้ ความจริงมันก็ทำร้ายความสัมพันธ์ของเราจริงๆ "แฟนปอมาหา" จบ...จุก
แต่เข้าใจมากกว่า ดีขนาดไหนที่ยังแบ่งที่ว่างให้ยืน ถึงแม้จะเป็นที่เล็กๆ เหน็บหนาวและอาจต้องยืนขาเดียวโดดเดี่ยวก็ตาม ไงก็ขอบคุณนะคะ จะอยู่ยืนแนบข้างขนานไปกับปอแบบนี้จนกว่าเส้นขนานจะมาบรรจบกันนะ คงคิดถึงปอน่าดู 2-3 วันนี้ ท่องไว้ เข้าใจ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เหมือนเป็นคนอื่น...ก็จริง

เหมือนเป็นเพียงสิ่งที่เธอคุ้นเคยแต่มองข้ามไป
ใจเปี่ยมด้วยรักและความห่วงใย ฉันนั้นให้ทุกอย่าง
อยากให้เธอได้เจอแต่วันที่ดี...

อะไรที่ทำให้เกิดความคาดหวัง อะไรที่ทำให้จิตใจเกินความร้อนรน
ก็เราเองทั้งนั้น เค้าไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย ยังจะมานั่งอาลัยอาวรณ์
ชักจะเริ่มปลงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้แล้วสินะ หรือว่าจะจบที่ใจเราเอง
มันจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด หรือจะฝืนยิ้มต่อไปทั้งที่ใจด้านชา

เธอทำให้ฉันว้าวุ่นใจรู้ตัวรึป่าว คงนอนหลับปุ๋ยแล้วสินะ
ปล่อยเราเพ้อเจ้อต่อไปในค่ำคืนที่เย็นชาทั้งตัวและหัวใจ

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เมื่อไรที่คิดจะเริ่มต้น...มันก็...

สัมพันธ์

อาจไม่ใช่ฉันที่เธอค้นหาไม่อยู่ในสายตา เธอไม่สนใจ

เมื่อวันนี้เป็นได้แค่เพียงเพื่อนคุยแก้เหงาในยามที่อากาศเหน็บหนาวเท่านี้ที่เค้าหรือเราต้องการกันแน่ ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จริงๆว่าจะต้องอีกนานซักเท่าไร ไม่คุ้นชินกับความเชื่องช้าของความสัมพันธ์ เกลียดการรอคอย หรือเราจะเกิดภาวะบกพร่องทางความเข้าใจความสัมพันธ์ มันก็อาจเป็นแค่ช่วงสั้นๆ หวังว่าเธอคงจะทำให้อาการเหล่านี้จางหายไปบ้าง

ขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้ความรู้สึกแบบนี้กลับมา.....นะคะ