วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน

คงเป็นสัปดาห์แห่งการย้อนวัยกลับไปหาสิ่งที่คุ้นเคย กับอาหารการกินความอบอุ่นครั้งเก่าหนหลังจากภวังค์เยาว์วัย การได้กลับสู่สถานที่ที่คุ้นเคย อบอุ่นปลอดภัย อาจจะเป็นช่วงสุดท้ายที่เราได้อยู่กับครอบครัวที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวที่เป็นรูปร่างในชีวิตมากกว่าวัยใด และแม่ลองพร้อมกับเครือญาติที่ดีต่อเราอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่น่าเชื่อว่าความเกี่ยวดองทางสายโลหิตไม่ได้บ่งชี้ความผูกพักที่เขาเหล่านั้นมีให้กับเรา


ไม่ได้มีDNAเสี้ยวใดที่คล้ายคลึงแต่กลับอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ไปใกล้ชิดได้พูดคุยจากัน นานครั้งที่หลบลี้และสุขทุกทีที่ได้ไปเยี่ยมเยียนคงเป็นอีกช่วงเวลาที่เราคงจะเก็บเกี่ยวความสุขนี้สะสมไว้ในยามที่ทุกข์ยากทางอ้อมกอดของครอบครัว เวลาที่โดดเดี่ยวไร้ผู้คน 


คงไว้ในอดีตที่แน่นิ่ง แต่ความสุขเกิดขึ้นทุกครั้งที่เราดึงมันมาใช้ ในมโนภาพของเด็กน้อยกับวิถีการเลี้ยงดูเก่าๆแต่อบอุ่น ขอบคุณ ครอบครัวญาณไตรรัตน์ จากตากถึงชัยนาท และตลอดไป

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อนาคตอนางอ

เมื่อวันที่ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ฤดูกาลผันแปร สิ่งต่างๆรอบกายสรวลเสเหหักตามกระแส วาระแห่งการเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ อนาคตที่สุ่มเสี่ยงแต่เสียดฟ้ากับเบื้องหน้าที่ต้องก้าวเดินอีกยาวไกลในหลายปีผ่านจากนี้ คงต้องตั้งสติกับการดำเนินเจริญรอยทางตามหาฝันใฝ่ในสังคมวิชาการ

ขัดแย้งแบ่งข้างแต่มันคือสิ่งที่เบื้องบนคนสั่งการให้เจริญรอย ฝันรายทางคงเก็บพับใส่กล่องใบใหญ่เอาไว้ก่อน

สิ่งที่ฝันกับสิ่งที่ชอบ มักสวนทางกับความจริงของวิถีที่ดิ้นรน ในชีวิตที่เลือกได้บ้างไม่ได้บ้างในบางเวลา

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Zzzzz

จะหลับไหลในแสงอุทัยส่อง เหนือริมคลองหน้าเขาเงาไสว
แม้ผู้คนพลุกพล่านผ่านเภทภัย แต่ไฉนในเพลาข้าง่วงนอน


เหตุคงเป็นเพราะอ่อนล้าชีวาหลุด จิตใจหยุดเคลื่อนไหวไร้เหตุผล
รอเวลาเสร็จสรรพกลับเป็นคน สมบูรณ์ผลดังเดิมเติมแรงใจ


ค่ำคืนสุขทุกข์ยากหากยังโหย คืนฝนโปรยดาวหายมลายแสง
ทั้งอากาศเหน็บหนาวคอยทิ่มแทง จิตยื้อแย่งกายไว้ไม่ไหวติง


ถึงจุดดิ่งเหวลึกรู้สึกหวิว กายใจปลิวปลดปล่อยรอคอยหวัง
ขอเธออยู่เคียงข้างสร้างพลัง  ถึงพลาดพลั้งร้อยหนไม่บ่นเลย


Good evening Zzzzz

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เสร็จสมอารมณ์หมาย

วันที่ภาระกิจในเบื้องหน้าหมดจรดเนียนตา เหลือแค่ร้องเพลงรอระบบราชการมหาวิทยาลัยในการจัดการภายใน อนาคตที่เลือนลางกลับมาชัดเจนอีกครั้งหลังมืดดำไปชั่วนาตาปี สุญญากาศในการงานและสิ่งรอบด้านคงช่วยจัดกระบวนการคิดเราเสียใหม่ ผ่านค่ำคืนของสหายคุ้นเคยกับเสียงดนตรีเคล้าคลอ คงช่วยต่อเติมอารมณ์ความฝันมิตรภาพให้เดินตามรอยทางของมัน


บทเพลงมิตรภาพที่เอื้อนเอ่ย ถูกบันทึกด้วยความทรงจำและสื่อสมัยใหม่ฝากไว้ในฐานวีดีโอที่เมื่อเราไม่ค่อยได้พบกันคงนึกขำกับสิ่งที่ส่วนไร้สติทำให้เกิดความสุนทรีย์อย่างแยกไม่ออก


คงนิ่งพักผ่อนอีกซักพักค่อยก้าวย่างออกสู่โลกาหาสิ่งแปลกใหม่ 
ถ้าต้องพบสิ่งไม่พึงจิต ขอหยุดคิดพักใจและหัวคิดไว้ก่อน


วันเวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หลุดโลก

นิยามที่สหายกิ๊กเรียกขาน กลับมานึกคิดก็เป็นเช่นนั้นจริงแฮะ หากแต่ที่ผ่านมายังคงยึดติดกับสิ่งผูกพันทางสังคม ความคิดและ พันธนาการของอารมณ์ ช่วงเวลาดั่งทองจะทำทุกวันให้มีคุณค่ากลบเกลื่อนความพร่องทางการงานที่ทบทวนหนแล้วหนเล่า ก็เข้าใจและเหม่อทุกครั้งที่ ต้องจมอยู่กับสิ่งที่ไม่ได้รักชอบ ทำแล้วสุขน้อยทุกข์มาก ขอเลือกสิ่งที่เห็นแก่ตัวบ้างในเพลานี้

ฉันยังยืนยันว่าฉันรักในอิสรา และประชาธิปไตย

วันเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่าน

             วลีที่ได้ยินมานานนมตั้งแต่สมัยประถมถืออมยิ้มจนถึงวันนี้ก็ไม่มีลืมเลือน คือ ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง จริงแท้ในกระแสไม่ว่าจะผ่านยุคใดการเปลี่ยนผ่านทั้งภายในและภายนอกของสิ่งที่เป็นไป ยังเวียนวนเป็นพลวัต อีกจุดที่รอยเชื่อมแห่งความสว่างและความมืดเปิดรับกัน ยังคงไม่ไหวติง นิ่งสงัดอยู่อย่างเดิม มันคงเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดด้วยกรรมการทำที่สอดรับกันมาตั้งแต่ต้น อีกประสบการณ์ของสัมคมนุษยวิทยาที่หยั่งรู้ถึงผู้คนอีกกลุ่มก้อน ทฤษฎีวิเคราะห์ใดไร้ค่าเมื่อเทียบกับ Exp ที่ผ่านพ้น

             อ่อนล้าด้วยฤทธิ์ธาของเมรัยและประไหมสุหรีที่รัญจวน วันที่แสดงตัวซึ่งอิสรา แลประชาธิปไตยอย่างภาคภูมิ ไร้ระบบพันธะทางการครอบงำความคิดอีกต่อไปขอบใจที่อำนาจไม่อาจส่อถึงบารมี ขอบใจที่ความดีไม่อาจส่อถึงความงดงาม และขอบใจที่ทำให้รู้สันดานของความจริง

หากเราต้องจากกัน จากกันด้วยเหตุใด เก็บความคิดที่คล้ายกัน...
ขอเพียงส่งเสียงมา จะไปหา จะไปในทันใด...

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ธุรกิจการศึกษา

กล้วยไม้มีดอกช้า..........ฉันใด
การศึกษาเป็นไป...........เช่นนั้น
แต่ดอกออกคราวไร......งามเด่น
งานสั่งสอนปลูกปั้น.......เสร็จแล้วแสนงาม


ปิ่น มาลากุล


บทประพันธ์นี้คงใช้ไม่ได้กับสถานศึกษาเอกชนที่มองเห็นเป็นธุรกิจมอง ตัวเงินมากกว่าผลผลิตที่งามงดของนักเรียนนักศึกษา สารเร่งที่ฉาบฉวย ส่งผลงอกงามในระยะต้น แต่ความต่อเนื่องของลิ่วล้อมันเป็นเครื่องชี้บ่งถึง กระบวนการถ่ายทอดสู่Processที่เมื่อเบื้องบนมองเป็นเชิงเศรษฐศาสตร์ ก็จบตั้งแต่ต้น สายป่านที่ยืดยาวพิจะประคับประคอง แต่ถึงกาลเวลาที่ความจริง ความงามของกฎที่เทียงธรรมเปิดเผย คงได้มองเห็นตอที่ผุดโผล่พ้นเหนือน้ำ


หลุดพ้นจากวงการศึกษาแบบอัตราเร่ง เครื่องจักรกลมนุษย์ไร้ ความคงภูมิในคำว่าครู บงการด้วยนโบายอุตสาหกรรมสังคมนิยมเบ็ดเสร็จ ยากที่จะต้านสิ่งที่อยู่ภายในประชาธิปไตยการศึกษาอย่างเรา คงต้องทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา แล้วคงเข้าใจเหตุและผลของมัน 6 ปีของวัฎจักรการศึกษาแบบที่ว่ามันคงมากพอต่อการสรุปสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ อีกสถานที่ที่แรงบันดาลใจลดน้อยถอยลงทางวิชาการ


Jadenathee ผู้หันหลังให้วงการศึกษาแบบอัตราเร่ง 
ขอบคุณที่ทำให้รู้จัก ความดี ความจริงและความงาม แบบจอมปลอม

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ก็มันเป็นเพียงแค่แสงดาว

นั่งมองดูดวงดาว ช่างสวยงาม ส่องแสงประกายเต็มฟ้าเวลาค่ำคืน อยากให้ดวงดาวทั้งหมดฟ้า มาส่องแสงให้กับฉันผู้เดียว อยากให้เธอมองมาที่ฉันคนเดียว


นั่งมองไปเพลินๆ เริ่มง่วงนอน ดาวก็ยังอยู่เต็มฟ้า เวลาหมุนไป ก็แค่เพียงดวงดาวก็เท่านั้น ก็มันเป็นเพียงแค่แสงดาว ต่อให้ดวงดาวทั้งหมดฟ้า มาส่องแสงให้กับฉันผู้เดียว แต่ว่าฉันยังเหงาก็เท่านั้น เท่านั้นเอง


หากเธอคิดว่าไร้ตัวตนเจือปนในอากาศธาตุ ให้รู้นะฉันคงอ้างว้างหนักกว่าหลายขุม อยากให้รู้ไว้ว่าไม่มีมโนนั้นในสมอง เพียงเวลาและความเจือจางที่มโนขึ้นกันเอง ทำให้สิ่งที่เคยเป็นมันขาดหาย แต่เพ่งพินิจคิดดูเถิด ที่มันเกิดคือจิตเธอและฉันมันก่อขึ้น อีกไม่นานคงเข้าใจ ไม่ว่า อากาศ ธาตุ สสารแปรเปลี่ยนเวียนหมุน จะยังเป็นคุณที่อยู่เคียงข้างในเพลานี้ ช่วงอะไรอารมณ์เวลา ภาษาที่เราเข้าใจ จะยังเป็นไปตามเหตุและผลความสัมพันธ์


จะอยู่แค่วันนี้ จะไม่มีฝันวันใหม่ ขอให้เราก้าวเดินไป แม้จะมอดไหม้ในอเวจี


ที่ฉันทำไปอย่าน้อยใจเลย...

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขอบคุณทุกความรู้สึกที่หล่อหลอม

ทุกบทเพลงร้อยเรียง ทุกประสบการณ์ที่พ้นผ่าน ทุกความรู้สึกที่อาจลืมเลือน ทุกความทรงจำสีจาง ทุกเรื่องราวที่หล่อหลอม ทุกโสตประสาทที่ซื่อสัตย์ ทุกมุมมองที่เคยเห็น ทุกสถานะที่เคยยืน ทุกคนที่เคยเรียนรู้ ขอบคุณที่ทำให้ฉันมีวันนี้ 

ถึงซับซ้อนแต่สวยงาม ทั้งขื่นขมและอมหวาน แม้สับสนอยู่เหมือนกันแต่ฉันยังพอใจ...
เจอมาร้ายดียังไงแต่ใจก็ยังต้องการ ในทุกๆวันโลกหมุนด้วยความรัก...


ความรักคือสิ่งสวยงามเสมอ และไม่มีวันสูญสลายไปจากจิตใจมนุษย์ เฉกเช่นกับศาสนา เป็นคำสอนไม่มีวันเสื่อมสลาย มนุษย์เองต่างหากที่ทำให้ความรักและศาสนาสูญสลายไปจากจิตใจ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สะสาง

วันที่พลังชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับเมรัย กลิ่นสี นารี ตัณหา สว่างจ้าขึ้นมากลับพบความเฉื่อยชาของชีพจร ความมืดดำค่อยๆจางลงจากรัตติกาลที่ชั่วร้าย คงผ่อนพักกับร่างกายและอารมณ์เพื่อสะสางสิ่งค้างคาและเบื้องหน้าที่จะก้าวเดินต่อ


ถ้ารู้สึกว่าการเลือกจากไปจากความสัมพันธ์แล้วทุกข์กว่าสุขบนหน้ากระดาษที่แจกแจงดีร้ายก็ขอให้บอกมาแต่ถ้าตรงกันข้ามจะคิดวกวนเพื่อบั่นทอนทำไมในเมื่อเราก็มีข้อตกลงพิเศษลับๆอยู่เธอก็รู้ ฉันอาจเยือกเย็นไม่สั่นไหว แต่ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่พระอิฐพระปูน 


อย่าทำแบบนี้อีก ถ้าจะหลีกไกลให้เป็นไปตามธรรมชาติของความสัมพันธ์ที่มันเป็นไป เพราะพรุ่งนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะกินข้าวกับอะไร ไม่รู้ว่าจะมีลมหายใจใส่สมองเพื่อคิดถึงเรื่องราวของเรารึเปล่า รู้แค่ตอนนี้มีสติ มีลมหายใจเพื่อใช้รดกันให้พลันอบอุ่นข้างๆกายกันเมื่อยามหลบฝันเท่านั้นพอ

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Little Ice Age

จิตใจที่เย็นชาซาลงไป เปรียบจุดดับบนดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงกำลังคลืบคลานปกคลุมลดอนุภาพรังสีจนถึงวันที่เริ่มต้นนแห่งยุคเหน็บหนาวที่มนุษย์ต้องเผชิญไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดอสุรกายที่เคยกำเนิดเกิดขึ้นบนโลก อาจเนิ่นนานในอายุขัยของเราแต่มันคือจุดเริ่มเปลี่ยนของจักรวาล ผู้คนที่ขวักไขว่แก่งแย่งไร้ขื่อแปรในแดนดิน รบราฆ่าฟันหากอณูที่เล็กจิ๋วเทียบกับผิวหนังมังสาคงด้อยค่า ยิ่งกว่านั้น มนุษย์แก่งแย่งชิงดินแดนรอยต่อบนโลกใบจิ๋วของจักรวาลที่มีดาราจักรนับแสน ยิ่งทวีความเบาบางของสสารแทบไม่เหลือให้มองในโลกความเป็นจริง การปลดปลงเท่านั้นที่จะออกนอกเหนือสิ่งที่ผูกมัดลมหายใจเป็นพลวัต


ถ้า 2014 เข้าสู่ยุคน้ำแข็งจริงคงได้เห็นการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด แต่ตอนนี้วิธีที่เยียวยาจิตใจให้คลายจากสภาพไร้น้ำหนักและทิศทางคงอยู่ที่การทำปัจจุบันทุกวันและเบื้องหน้าให้โล่งโปร่งเสียก่อน จะตั้งในแน่วแน่แก้ไขในสิ่งที่ต้องดำเนิน ให้เพลิดเพลินไปกับชีวิตที่โหยหา วันฟ้ามืดอาจไม่เห็นดวงดารา แต่บัดนี้มีแสงจ้าอยู่ในทรวง


มันก็เป็นเช่นนั้นเอง จงเฝ้ามองดูเถิด อนิจจาปลดปลงตามพระท่านว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุและผลจากกรรมเก่าใหม่ล้วนได้รับ ไม่อาจหักชดเชยกรรมบุญ แยกแยะออกทั้งสองจะสุขทุกข์ และเข้าใจโลกในยุคต่อๆไป


อีก 5 ปีย้อนกลับไปหน้าหลัง คงได้นั่งหัวเราะกับอักษราที่ขีดเขียด ตามความรู้สึกนึกคิดและเหตุการณ์ ตลกบ้างสาระน่าจะมี ลมหายใจอุ่นๆแสนสั้นจงตั้งใจฝ่าฟันและล้างจิตให้มีสติปลงอยู่กับสิ่งที่นึกคิด เราไม่เกิดมาเพื่อนิพพาน ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า1000ปี เราก็มีดีชั่วปะปนไป ขอความสุขจงอยู่กับเราท่าน ตราบสิ้นลมปราน

จุดหักเหและจุดวิกฤต

เข้าถึงความหนักแน่นในการงานสุดท้าย ปลดทิ้งทุกภาระเพื่อมุ่งหน้าสู่เส้นทางดวงดาวที่หนาวเหน็บรออยู่ ชีวิตตั้งต้นหักเหในมุมที่คุ้นเคยกำลังกลับเข้ามา สถานการณ์ที่เลวร้ายถึงจุดดิ่งลึกกลางเหว สุดท้ายจะดีีดตัวขึ้นจากเบื้องลึกสุดและเมื่อสิ่งนั้นพรั่งพรูออกมาจะ ยิ้มรับอรุณกับเธอนะแสงตะวัน

ความรักเก็บเหลือไว้ให้ตัวเองบ้าง เหตุไฉนจึงไร้สภาพความห่วงหารักแท้ ไม่เหลือไม่รู้ไม่รับกับโชคชะตาและใครที่จะมาเหลียวแลและรักเราในรูปแบบที่คนค่อนโลกโหยหา โลกกำลังหมุนครบรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบที่เมื่อคำนึงเมื่อไร ก็อดใจหายไม่ได้ นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีทุกช่วงทุกเวลาที่เรามีกัน แม้จะแปรเปลี่ยนเป็นเพื่อน น้องสาว พี่สาว บ้างแต่ก็ยังคงความผูกพันทางกายและจิตอย่างแกะไม่ออกจากเซลล์สมองที่บางเบา

จุดเลี้ยว เสี้ยวหนึ่งถึงฝัน อาจฝ่าฟัน รอยทางและขวากหนาม
แต่ไม่เคยลดละพยายาม จะเดินตามรอยนั้นที่ฝันไกล


หากวันนี้ไม่มีแม้แรงหวัง ไร้กำลังหมดสิ้นถวิลหา
แต่จะเติมด้วยมิตรและชีวา จากหยาดฝนหล่นฟ้านภาลัย


มรสุมวิปโยคอันโศกสันต์ เคลื่อนผ่านพลันสุขทุกข์สนุกแสน
แม้นไร้ค่าไม่อาจพบแม้นดินแดน ที่สุดแสนรักมั่นสนั่นใจ


แต่ว่าตัวข้านี้ไม่มีท้อ ยังลุกขึ้นยืนต่อในสายใหม่
อาจจะพบเกาะเกี่ยวแม้เสี้ยวใจ  ก็ยังได้สุขสันต์ในฝันเอย

เพื่อนในโลกเสมือน

คำว่า "เพื่อน" นั้นจะมีความหมายเจือจางลงเมื่อปรากฏในโลกเสมือน ไม่มีใครถือเอารายชื่อเพื่อนหลักร้อยหลักพันในเฟซบุ๊ก (หรือทวิตเตอร์) แทนค่าของคำว่ามิตรภาพแท้จริงได้ทั้งหมด

คริสทีน โรเซน บรรณาธิการอาวุโสของ The New Atlantis

ภาระ ทั้งหมดปลดเปลื้อง เหลือเพียงสานต่อปลายทาง และสิ่งเก่าๆ เพื่อพ้นพันธนาการ วันที่มองฟ้าและแสงจันทร์เสี้ยว กลับรู้สึกเปลี่ยวเหมือนเก่า กำลังก้าวพ้นชีวิตปลาทองว่ายวนในอ่างเดิม ความสุขต่างๆกำลังค่อยเวียนวนมาบรรจบแต่คงปะปนกับทุกข์ที่ก่อจากตัณหามา นานนม

ละทิ้งความคาดหวังต่างๆแล้วจะพบกับสุขแท้ ขอเธออยู่เคียงข้างในเงามืด อ้างว้างคงมลายพลันทันตา อย่ากลัวที่ความรู้สึกมันมากล้น และจงรักษาระดับให้คงที่ตรงกลางสายเดิมให้เราอยู่ด้วยกันอีกแสนนานในโลกความ ฝัน

จะคิดถึงสายลมหนาวและดวงดาวที่เรามองด้วยกัน ในคืนนั้นตลอดไป

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เย็นย่ำก็ฮัมเพลง

เชียงรายรำลึก กลับมาอีกครั้งกับภารกิจสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไม่ได้สะทกกับการไร้สำนึกในงานเพราะเบื้องหน้าที่ตระหง่านมันสำคัญกว่าด้วย เวลาความมานะพยายามมันงวดมาถึงสิ่งสุดท้ายในกระบวนการคงต้องละทิ้งสิ่งรองต่างๆเพื่อมุ่งสมาธิกับมัน

อะไรใหม่ๆกำลังผ่านเข้ามาประชิดคลุกเคล้ากับสิ่งเก่าๆ มันก็เป็นเช่นนั้นเอง กับวิถีที่มนุษย์เดินดินอย่างผมต้องเจอะเจอ รอยต่อแยกห่างไม่นานคงเคลื่อนย้ายผ่านสิ่งเก่าไปสิ่งใหม่เข้าแทน


ระยะทาง เวลา นำพาความรักหักเหฉันใด 

อดีตและปัจจุบันคง พาอนาคตปลดปลงตาม


วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กระดาษทราย

วันที่ข่าวคราวบนโลกโกลาหลวุ่นวายไปกับอำนาจ และหน้าที่ผิดที่ผิดทาง ต่างคนก้าวก่าย ไร้ขื่อแปรมรรคผลของกิเลสเบื้องต้นที่ทุกชีวิตมักนึกถึงแต่สิทธิของตนเองเป็นที่ตั้ง อาการหลับใหลไปกับค่ำคืนตื่นฝัน วันวานเกินความจำเป็นของร่างกายทำให้วันนี้ต้องสะสางสิ่งเบื้องหน้าเน้นปากกาสีสดให้หมดลง และจัดส่งพร้อมไปกับ Logistics ที่ทันสมัยให้ทันก่อนวันฎีกา 

หยาบกร้านจนละเอียด พื้นละเลียดเพราะเจ้านั้น  ขัดถูเสียดสีกัน จนผิวมันพลันละมุน
เฉกเช่นตระเวนผ่าน ท่านพบพานหลากปัญหา แก้ไขผ่านพ้นมา เร้วและช้าปะปนเป

มรรคผลที่ได้ผ่าน คือประสบการณ์ที่สั่งสอน ทั้งหนาวและรุ่มร้อน ดั่งละครซ่อนมายา
ไม่ต่างกระดาษทราย พลีเม็ดกายวายชีวา เสร็จสมละเอียดตา ขัดเกลาข้าไห้เติบโต 


นิราศกระดาษทราย by Jadenathee

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เริ่มต้นนับถอยหลัง

สิ่งที่เป็นนิรันดร์ในวิถีทางของลูกหนังไม่มีฉันใด เหตุการณ์ที่คลับคล้ายคลับคลาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยจนเป็นวัฎจักรของมืออาชีพที่ล้อเล่นกับความรูสึกแฟนบอลตัวจริง ข่าวคราวนักเตะพเนจรย้ายฝั่งเลือกข้างมีทุกหัวระแหงของโลกทุนนิยมหน้าเงิน เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่มันเป็นพ่อของพระเจ้า 

เดือนแห่งความรักที่แสนธรรมดา มุ่งหน้าสู่การกวดขันทางวิชาการสุดท้าย ทุ่มเทให้เต็มที่ผลคงออกมาหอมหวานตาม 

การเริ่มต้นับถอยหลังสู่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าหลายๆสิ่งกำลังอยู่ในรอยต่อรอยแยกเบื้องต้น ถอยหลังหรือเดินหน้าไม่มีความต่างอยู่ที่ทิศทางของหางและหัว หยุดเพื่อก้าว ยาวเพื่อสั้น ทุกอย่างคือจังหวะเวลาเชี่ยวของอารมณ์และเวลา ปรารถนาให้ดีเถิดจะเกิดผล สิ่งที่จะเป็นนิรันดร์สุดท้ายคือ สิ่งใด หลายคนคงค้นหาแต่ในเรือนกายที่เปี่ยมกิเลสคงเห็นแต่สุขที่ฉาบด้วยตัณหา ราคะ ตอนที่ลมหายใจยังอุ่น ยากต่อการลิ้มรสสุขทิพย์จากการละซึ่ง สังขารวิญญาณ และไม่มาเกิดในโลกบาลแห่งนี้อีก

ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป ชีวิตไม่ดิ้นก็อาจสิ้นใจ 

จากจ่าทอมสหายนักเตะ