วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปีใหม่สิ่งใหม่ๆและสิ่งเก่าๆ

สิ่งใหม่ๆในวันปีใหม่สุดท้ายมันก็ยังเดิมๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน ผู้คนมากมายร้อยพันกลับรู้สึกว่าไกลแสนไกลจากความอบอุ่น อะไรมันหายไปตั้งแต่ปีที่แล้วคงไม่กลับคืน

ห้องหับที่เหน็บหนาวในวันแรกของปีคงไม่มีพื้นที่ใดเหมาะสมกับเราเท่ากับมุมมองจากเบื้องสูงเห็นดอยสุเทพในแนวกว้าง ยิ่งสูงยิ่งหนาวยิ่งเหงายิ่งอ้างว้าง มันยังคงเหมือนเดิมทุกวันที่ผ่านกับสิ่งเก่าๆและสิ่งที่ฉันเป็น และยังเป็นอยู่อย่างนั้นจนจะพ้นผ่านพันธนาการภายในจิตใจ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เช้าสุดท้ายของปี

เช้าสุดท้ายของปีกับหนังสือดีๆซักเล่ม กับแก้วกาแฟอุ่นๆ คงไม่มีความรู้สึกเดียวดายรูปแบบไหนที่แฝงความสุขภายในให้กับคนอย่างเราได้ดีเท่านี้ คิดถึงเธอนะถ้าเรายังอยู่ด้วยกัน เช้าที่เราคุ้นเคยคงมีกาแกขนมปังหมูหยองที่เธอปิ้งคงหอมอบอวลกว่าแคร็กเกอร์ตามท้องตลาดที่ฝืดคอ เราคงยังหยอกล้อกันบนที่นอนอุ่นๆกับอาหารเช้าที่เรากินด้วยกัน แต่เวลาดีๆกับคนดีๆมันไม่มีอีกแล้ว เหลือเพียงถ้วยกาแฟใบขุ่นๆกับคุกกี้กล่องกระดาษ ฉันแค่คิดถึงเธอทุกทีที่ฉันเจอความงดงามยามเช้า


วันนี้คงอยู่ในห้องสี่เหลี่อมปลีกตัวเองออกจากสังคมอย่างสิ้นเชิงเพื่อลดปัญหาที่ข้องเกี่ยวกับเวลา ไม่มีความหมายใดนอกจากวันที่เปลี่ยนไปยัง hour ที่ 25 แล้วมันก็บังเอิญเป็นศักราชใหม่ก็แค่นั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในความรู้สึก




Depapepe  => start ให้ความรู้สึกเหมือนมีพลังชีวิตขึ้นอีกครั้ง พรุ่งนี้ก็แค่วันปีใหม่เท่านั้น แต่ฉันก็ยังคงอยู่ในเส้นทางสายเก่าที่รกชันไปด้วย ขวากหนามทางสังคม อารมณ์และความรู้สึก

Target

ใกล้วันที่ต้องเริ่มเข้าใจอะไรๆชัดเจนขึ้น และคิดที่เริ่มสิ่งดีๆเพื่อตัวเองสักที Everything depend on myself จริงๆ เมื่อไม่มีแรงจูงใจรายล้อมก็ต้องสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง เหลียวแลคนรอบข้างคงอยู่เพียงความเหินห่างทั้งระยะทางและความเป็นจริง ดีไม่น้อยที่ยังมีความปรารถนาดีเล็กน้อยจาก ญ ผู้เปลี่ยนสถานะได้รวดเร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็ไม่มีความข้องใจทั้งสิ้น มันยิ้มกว้างทุกครั้งที่คิดถึง เพราะไม่มีอะไรติดใจระหว่างเรา คงเหลือแต่สิ่งดีๆในวันพรุ่งนี้ที่ยังมีลมหายใจอุ่นๆ


เราไม่ได้อยู่บนฟ้าและก็ไม่ได้อยู่ในน้ำ ทำให้ไม่สามารถโบยบินเหมือนนกได้อย่างอิสระ และก็ไม่สามารถแหวกว่ายในท้องน้ำได้อย่างร่าเริงยังคงผูกติดกับสิ่งที่สังคมและคนที่รักเราคาดหวังมันยากที่จะหลุดลอยออกไป แต่มันก็เป็นสิ่งที่หัวใจเราพร่ำเพ้อบอกอยู่ทุกวัน สักวันจะไปให้ถึงฝั่งฝันอันรื่นรมณ์เงียบสงัดในภวังค์ไม่ต้องรอคอย คาดหวัง เมื่อไรจะมีสิ่งนั้น ถ้าไม่เริ่มที่จะรอคอยแล้วจะได้ดอมดมกลิ่นของความสำเร็จเบื้องหน้าเมื่อไรกัน


เฝ้าถามตัวเองกับเรื่องเดิมๆ

วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

I wanna be a billionaire so fucking bad

ค่ำคืนสุดท้ายในองค์กรเล็กๆเปรียบเปรยคือบริษัททางการศึกษา สนุกสนานในแบบฉบับสังคมแนวดิ่งที่ผู้บริหารบริษัทแห่งนี้มักชอบพร่ำบอกถ้อยคำแปลกใหม่ดูไม่คุ้นชินกับหูของคนส่วนใหญ่ในองค์กรเพื่อเป็นตัวตั้งให้คนฉุกคิด

อย่างน้อยบรรยากาศแห่งความสัมพันธ์มันก็เข้ารูปเข้ารอยตามวิถีทางของมัน แต่มันจะเป็นไปอย่างนี้อีกนานเท่าใดไม่รู้เพราะเมื่อคนหลายคนแยกทางเดินชีวิต ครอบครัว การทำงาน มันก็จะจางหายไปเหมือนหมอกควันยามสาย

ค่ำคืนที่ได้ทบทวนเหตุการณ์และสถานะกับสันดานในวาจาเดิมๆกับคนที่น้อยนานมากนักที่จะเอนเอียงใจไปให้แบบไม่มีเงื่อนไขแต่ทุกสิ่งมันก็หยุดไว้ในฐานที่เราเข้าใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง แต่มันจะเป็นความคงทนและเกื้อกูลในความสัมพันธ์ จากนี้คงมีให้แต่สิ่งจำกัดเพราะมันเกินเส้นใยที่เราล้อมตัวเองไว้นานแล้ว

สุดท้ายก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าจันทร์จะงดงามเมื่อเราแหงนมองในองศาที่คุ้นเคย เมื่อใดแปรเปลี่ยนมุมมองอาจเลือนลางและอับแสงลง ตามการผันแปรของความสัมพันธ์

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อยู่ร่ำไป

อยากให้รู้ว่าจันทร์ยังส่ิองแสง ยังฉายลงมาที่เธอไม่เคยห่างหาย ...

แสงนีออนจากโคมไฟบางๆ กับความทรงจำเลือนลางไม่บ่อยนักที่ต้องพบเจอกับสิ่งฉุดดึงอดีต ความทรงจำ อยู่ในช่วงเวลาจะนานจะช้ายังยืนที่เก่า  1  ปีกับความซับซ้อนในช่วงความรักที่ไม่ชัดเจนจนมันหลุดลอยไปครั้งแล้วครั้งเล่า ยังจำได้ถึงวันที่เราผ่านสิ่งต่างๆในวันเวลาสุดท้ายของปี ปีแล้วปีเล่าคนแล้วคนเล่า ความรู้สึกเบื่อมันผุดขึ้นมาหลังจากความสัมพันธ์รุดหน้า ไม่แปลกใจที่ยังไม่มีใครทนทานกับความฉาบฉวยและมักง่ายในความสัมพันธ์



รู้ตัวดีว่าทำตัวไม่เหมือนใคร คิดอะไรก็พูดมันไปไม่แคร์ใครซะอย่าง ทำตามที่สมองสั่ง ทั้งๆที่ตรงข้ามกับหัวใจ รู้ว่าเธอไม่ได้รักไม่สนใจ ประชดตัวเองทำร้ายตัวเองอะไรที่ได้มา มีแต่เสียน้ำตา สับสนและก็หวั่นไหว
เจ็บไปทั้งใจและหาคนเข้าใจไม่ได้เลย

จุดอ่อนของฉัน อยู่ตรงนี้

Low profile high profit

อาจไม่เคยอยู่ในสายตาเหมือนเธอไม่รู้ว่ากำลังหายใจ หากลองคิดดูสิ่งที่อยู่ก่อนจะทิ้งไปจากวันนี้จะไม่เสียใจ

คำจั่วหัวจากเพลงดังฃองค่ายเบเกอรี่หลายปีก่อน คงบ่งบอกถึงสถานะตัวตนที่ดูด้อยค่าเมื่อเปรียบเทียบกับชนชั้นกลางถึงระดับบน ไม่แปลกนักที่เมื่อนำสถานะทางสังคมและวัตถุเป็นตัวตั้ง หลายคนมองผ่านด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่แยแสต่อสิ่งที่อยู่ภายในกลับ เพ่งมองเพียงเปลือกที่ไร้ค่า คงเป็นเพราะหลายส่วนในหลายมุมของสังคมทุนนิยมทำให้ผู้คนคล้อยตามยึดถือสิ่งที่มีคุณค่าคือตัวเงิน และนับถือผู้มีความรู้ระดับดีและสูงค่า 

ได้ยินเรื่องราวความฝันใฝ่ของน้องสาวสองคนในวันนี้อดนึกถึงสิ่งที่เคยผ่านมากับแนวคิดปริญญานิยมที่ก้าวเดินฝันใฝ่ไปกับกระแสสังคมการศึกษามากมายหลายตัวแปรที่ต้องพ้นผ่าน วันนี้ระบบกระบวนการคิดมันล่วงเลยความเร่งรีบในการก้าวเดิน กาลเวลาไม่อาจหมุนให้เร็วเท่าใจปรารถนา ยังต้องเจอะเจอสิ่งต่างๆอีกมากน้องเอ๋ยขอให้ก้าวเดินกันต่อไปจะเป็นกำลังใจให้ สิ่งที่หายไปมันไม่ใช่แค่ดอกไม้ แต่มันหมายความถึงบางสิ่งที่สำคัญ...


หากวันที่นานชั่วกัปชั่วกัลป์ (1 กัลป์ = ยอดเขาสูง 1 โยชน์ = 1.6 km ทุกร้อยปีจะมีนางฟ้านำผ้าบางๆมาปัด 1 ครั้ง จนกว่าเขาสูงจะต่ำเสมอดิน)
สิ้นสุดลงภายในใจเมื่อใดแล้วเมื่อนั้นคงพบเจอสัจธรรมที่เที่ยงแท้ถึงการหลุดพ้นในโลกเบี้ยวที่มนุษย์สรรค์สร้างแต่ความเชื่อที่เสพติดแพร่กระจายความคิดในคนหมู่มาก
คงจะเจอคนที่ใจเดียวกัน ยอมรับในจักรวาลของความคิดอย่างเราซักวัน 

จะรอและเก็บงำทุกอย่างสำหรับเธอนะ

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สายตาว่างเปล่า หัวใจว่างเปล่า

โลกมันว่างเปล่าไม่มีเธอเหมือนเก่าไม่มีเธออีกต่อไป หัวใจว่างเปล่าต้องรอจนเข้าใจเธอคงไม่กลับมา


ฉันยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหยุดเสียงเพรียกและสัมผัสแห่งความเดียวดายนี้อย่างถาวร หรือวันที่คนคอยจะยังไม่มาถึง ต้องพลัดพรากจากเจ็บ เหม่อมองถึงสิ่งที่ผ่านมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แสงสว่างในหัวใจเมื่อไรจะมีโอกาสเปล่งแสงเรืองรองมันริบหรี่จนมืดสนิทในหมู่แสงไฟในเมือง แตกต่างกับสิ่งที่เฝ้ามอง มันสูงชันในความรู้สึกและยากจะทำใจให้ไม่ว้าวุ่นในวันที่ใกล้และเฉียดกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่เค้ามีคนข้างกาย ถอนหายใจกับความเหงาอีกหลายครั้งก็ยังต้องเดินต่อไป หลับตาเถอะนะขอให้เธอหลับฝันดี.....

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รอยทาง

 ร่องรอยแห่งการเดินทาง การสำรวจและท่องเที่ยวในชีวิตที่ผ่านมามากมายเรื่องราวและมันกำลังจะผ่านไปอีกปีที่มีเรื่องราวความทรงจำหลากหลาย แต่ไม่อาจปฎิเสธได้ถึงความบอบช้ำและความสุขที่พรั่งพรูในคราวเดียวกันอย่างประหลาด ไม่ว่าจะดีจะร้ายเราก็เป็นแค่อีกหนึ่งชีวิตที่ต้องพบกับการเดินทางของห้วงอารมณ์ไปจนกว่าความรู้สึกและสังขารจะดับลงตามกาลเวลา

มีคำเปรียบเปรยจากหนังสือเล่มหนึ่ง"จะไปใหไกลถึงไหนกัน" กล่าวว่า

ก่อนการท่องเที่ยวนั้นมีการเดินทาง
ก่อนหน้าการเดินทางมีการสำรวจ

ถ้านักสำรวจคือผู้พยายามค้นหาสิ่งที่ยังค้นพบไม่เจอ
นักเดินทางก็คือผู้เดินตามรอยประวัติศาสตร์แห่งการค้นหา
และนักท่องเที่ยวก็คือผู้ค้นพบในสิ่งที่มีผู้เตรียมการไว้ให้

เพราะแท้ที่สุดแล้วสุดเส้นทางการแสวงหาก็คงไม่พ้นจิตใจในตัวตนของมนุษย์นั่นเอง
เพราะชีวิตคือการเดินทางและเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับเรื่องราวของความรัก

เรือน้อย

เราคงเป็นดั่งเรือน้อยลำหนึ่งในทะเลแห่งชีวิตกว้างใหญ่ ฟ้าคลื่นลมพัดมาอย่าหวั่นไหว ในใจมีแต่จุดหมายคือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหนต้องไปแม้ว่าในหัวใจ ไม่มีใครเลย

เมื่อตั้งใจทำอะไรจริงจังมันก็ไม่ยากอย่างที่คิดทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่คาดไว้ อย่างแม่นยำเพราะเลิกสนใจสิ่งเร้าภายนอกหันกลับมาอยู่กับความสำเร็จเล็กๆในตัวเองแต่มันจะยิ่งใหญ่งอกงามตามกาลเวลา คงส่งท้ายปีด้วยการอ่านหนังสือเตรียมสอบ สิ่งที่ล่วงเลยมาเกือบ 3 ปีให้บรรลุเพื่อปูทางสู่สิ่งยิ่งใหญ่ภายใต้เบื้องล่างที่ผุพังของจิต

ขอพลังจงอยู่กับเราและท่านทั้งหลายไปจนวันอนุมัติ Thesis อีกไม่ถึงคืบความสำเร็จขั้นกลางจะคลืบคลานเข้ามาแล้ว หัวใจดีอยู่แต่รู้ว่าไม่พร้อม ขอยอมอยู่อย่างเดียวดายแต่ไม่ใจร้ายต่ออนาคต ใครซักคนคงรออยู่ในดินแดนที่เรียกว่า Lover land

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

่ีWhen i see your face...

              Last X ' mas I gave in my heart ... ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองของผู้คนมากมายค่อนโลกแต่คงไม่มีแม้เสียงชักชวนหรือจิตใจที่กระสันจะออกไปพบปะใครต่อใครที่ต่างๆก็มีมุมมีช่วงเวลาแห่งเพื่อนเก่า ครอบครัว คนที่ไม่ได้พบเจอในรอบหลายปี หรือช่วงเวลาที่ยาวนานคงใช้โอกาสนี้ย้อนกลับไป แต่เมื่อกลับมามองกระจกเงาเข้าดูตัวเองไม่เหมือนอยากจดจำช่วงเวลาที่หลากหลายคงปล่อยให้เป็นเรื่องคงความทรงจำตกร่อง ผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาพบปะในช่วงปีที่ผ่านมา หลากหลายความทรงจำทั้งดีและร้าย ค้างคาในรอยจำเพราะเธอทำไว้ให้ดีต่อความรู้สึกยาวนาน ญ สาวและไม่สาวที่ผ่านเข้ามาในปีแห่งความเศร้า สลับสับเปลี่ยนชดเชยความว้าเหว่ทั้งพูดคุย คำพูด ปลอบโยน ทั้งกายใจ แต่กลับไม่มีหลักประกันความชัดเจนในความสัมพันธ์ คงเพราะต้องแลกมากับการสูญเสียความอิสระ(Degree of freedom) จึงไม่อยากเข้าสู่วังวน

             แต่กลับมี1ความสัมพันธ์ระยะสั้นแต่ยาวนานในความรู้สึกที่ไม่ค่อยพบเจอ เข้ามาในเวลาที่ขุ่นมัวในอารมณ์ ระเบิดเวลากลับทำงานให้เธอต้องหลีกหนี คงไม่มีอะไรดีไปกว่าสูดลมหายใจลึกๆตั้งสติและเดินหน้าต่อไปเพื่อลบเลือนสิ่งต่างๆและแปรสภาพความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนในรูปแบบอื่น

             Lonely  X'mas เหงาแต่เข้าใจมากขึ้นกับชีวิตที่ต้องเดินเดียวดายผ่านศักราชเก่าสู่สิ่งใหม่ที่ท้าทายรออยู่ทั้งชีวิต ความฝัน ความรัก...

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แรงบันดาลใจสุดท้าย last inspiration

วันที่ 24.7 hour ของเราเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากับภาระหน้าที่ที่ก่อตัวยาวนานผสานสู่อนาคตแต่ก็ไร้แรงบันดาลใจที่จะสะสางมันคงเพราะรอบข้างที่ไร้แรงกระตุ้น ไร้ความฝันใฝ่ที่จะมอบให้ใครซักคน แต่ยังเหลือสิ่งสุดท้ายที่อยู่กับตัวตนมานานแสนนานคือ แรงแฝงที่ทุกคนมีแต่ไม่เคยนำมาใช้ต้องให้เกิดแรงกดดันมากพอมันจึงจะเผยตัวตนออกมาให้เราได้ใช้งานและนี่คงเป็นอีกครั้งที่จะต้องขอแรงที่แอบซ่อนนี้กลับมาสานต่อสิ่งที่ขาดหายในมิติของวิชาการ

สิ่งรอบตัวอยู่ห่างไกลด้วยระยะทาง วันที่แม่อยู่แดนไกลในฮอยอัน ขอให้ปลอดภัยกับการเดินทาง พี่สาวคงติดลบกับอากาศและความรู้สึกแต่มันจะผ่านไปนะแก แต่สิ่งที่ไม่เคยทรยศสำหรับเราคือไม่ว่าเทศกาลนานเนิ่นเลยผ่านเกือบปีแล้วสินะที่เหตุการณ์ต่างๆมันผ่านพ้น ไม่รู้ว่าสิ่งที่ไม่เคยบอกกับสิ่งที่ตอกย้ำมันกลับมารวมกันเมื่อไร ทุกครั้งที่ใจรู้สึกว่าเหงา หนาวก็ไม่เคยเข็ดขยาดกับความรัก ความใคร่ คงเพราะเราเป็นเพียงมนุษย์ตัวตนเล็กตัวหนึ่งซึ่งห่างไกลกับการหลุดพ้น 

แต่การเข้าใกล้พระอรหันต์ยังมีหนทางอีกเส้นหนึ่งที่เสี่ยงจากคำนิรนามที่ว่า "พระอรหันต์กับคนบ้าห่างกันแค่ฟางเส้นเล็กๆเพียงเส้นเดียว" 

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รักออกแบบไม่ได้ แต่รักแอบบอกได้นะคะ

เมื่อทัศนคติต่อการดำเนินชีวิตบนเส้นทางเปลี่ยวเปลี่ยนไปบ้างแต่แท้จริงความสุขกับอยู่เคียงข้างกับตัวเองในคืนที่ทุกคนหลับใหลยาวนานแต่กลับต้องทำในส่วนประกอบปะติดปะต่ออนาคตอย่ากลัวที่จะฟ่าฟัน ความอดทนหลังม่านจะออกดอกผลสวยงามเสมอ

ขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมาถึงค่ำคืนแห่งความเข้มแข็งที่ไม่เคยนึกฝัน จะอยู่ให้ผู้คนอิจฉาดีกว่าอยู่เพื่ออิจฉาคนอื่นในการใช้ชีวิต ชีวิตในสังคมนิยมไม่ได้ตอบสนองความเป็นเราได้เนิ่ินนานแล้วที่ไม่เคยบอกว่าสิ่งที่สุขที่สุดคือการยอมรับทางสังคม ชื่อเสียง เงินทอง และมันก็ชัดเจนมากขึ้นทุกวัน เบื้องหลังชีวิตที่ยากไร้ใครจะรู้ว่า มีคนรอบข้างที่มอบความรักและหลักประกันในอนาคตให้มากมาย ขอบคุณแม่และพี่สาวที่รักและวางแผนสิ่งที่เป็นความมั่นคงในอนาคต แต่กว่าจะเข้าใจถึงสิ่งที่ยาวนานและมั่นคงมั่งคั่ง คงต้องผ่านช่วงเวลาแห่งความเดียวดายล้มลุกคลุกคลานไปอีกซักพัก แล้วจะกลับไปสู่หนทางที่ แม่ปรารถนานะ

ยิ่งสูงยิ่งหนาวยิ่งร้าวยิ่งลึก แล้วมันจะตกผลึกเข้าสักวัน อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีหรือแย่ลงก็จะไม่เสียใจเพราะนี่คือสิ่งที่เราได้ตัดสินใจกับชีวิตที่จริงและเที่ยงตรงกับความรู้สึกที่สุด รักแม่และคิดถึงแกนะพี่สาว

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ใจบางๆ

เป็นเพราะเราเป็นเพราะเรามากกว่า คิดไปเองทำให้ใจเราเจ็บ สุขเพียงสุขเล็กน้อยยามพบคนถูกใจ เจ็บก็เจ็บก็เจ็บเกินใครเป็นเพราะใจมันบางเหลือเกินเป็นเพราะใจเราอ่อนอยากทำหัใจขึ้นใหม่อยากตกแต่งดวงใจเล็กๆให้แข็งแรงพอจะทนไหว พอแล้วพอ พอฉันพอดีกว่าคิดไปเองทำให้ใจเราเจ็บ...

วันที่ต้องสะสางให้เสร็จก่อนรุ่งสางในอีกสองวันจะเวียนมาถึงกับห้องสี่เหลี่ยมโคมใฟชุดเดิมที่เพิ่มเติมคือความเหงาเท่านั้นเอง คงไม่มีข้อความใดอีกว่างเปล่า พบเพียงแต่ร่องรอยภาพสลัวของเหตุการณ์ซ้ำที่เก่า กลิ่นกาย สายตาจางหายไป ทิ้งไว้แต่รอยทางแห่งความหลังที่ยังอบอวลในห้องที่เราต่างเคยเหยียบย่ำในคืนนั้น

ฉันไม่รู้ไม่รู้ต้องทนอีกนานเท่าไร

เข้าใจคำสั้นๆแต่ทำได้ยาก

เพราะเธอคือแก้วตาของฉันรักเธอจนหมดหัวใจ เพราะเธอยังต้องไปอีกตั้งไกลอย่าห่วงคนอย่างฉันเลย อย่าเลยอย่าอยู่กับรักที่เป็นเพียงนิยายสุดท้ายก็จากกัน อยากให้เรายังรักกันทั้งรักทั้งผูกพันกันด้วยหัวใจ จะไม่ยอมให้เธอลำบาก ไม่ยอมให้เธอลำบากไม่ยอมให้เธอต้องทนเพราะฉัน รู้ว่ายังรักกัน ฉันก็ยังรักเธอแต่ถึงอย่างไรรักฉันก็มีแต่หัวใจมีเพียงเท่านั้นเอง

จะเข้าใจสิ่งที่ผ่านมาทุกอย่างระหว่างเรานะ

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

rest & speed

มีสัญญาณจากเบื้องบนว่าต้องส่งงานวันเสาร์นี้เพื่อยื่นสอบต้นเดือนมกรา 54 อะไรมันจะประจวบเหมะกับเวลาคับขันแบบนี้คงได้เป็นหมีแพนด้าในสองสามวันนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหลือคนสอบ 2 คนก็ยังดีที่ได้สอบเอาวะต้องเร่งทุกอย่างและพักรบ ไว้พบรักกันอาทิตย์หน้าละกันนะคะ มันควบแน่นงวดจนข้นเหลือแต่กากใยไร้ของเหลว จะมามัวทำสิ่งที่อยู่รายทางเพื่อสนองตัณหาไม่ได้แล้วนะ ขอพลัง direction & speed จงอยู่กับเราในช่วงเวลานี้ด้วย จะไม่แยแสต่อสิ่งหอมหวลที่ไม่แน่นอนจนกว่าจะเสร็จในสิ่งที่หมายปองคืออนาคตที่ผุพังแต่จะงดงามเมื่อเราตั้งใจทำมันอย่างจริงจัง


ถามไถ่ถึงฝันไม่เคยมี หวังความร่ำรวยไม่มีในสมอง แค่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ทุกๆวันและก้าวต่อไปจนมาได้ยินเพลง Billionaire แล้วรู้สึกว่าอยากรวยแล้วเป็นอย่างเพลงนี้จัง ถ้าฉันรวยฉันจะจ่ายภาษีไม่เหมือนคนรวยส่วนใหญ่แม่งยอมจ่ายภาษีกันอ่ะพวกเฮีย
So everybody that I love can have a couple bucks   
And not a single tummy around me would know what hungry was    
Eating good sleeping soundly     
I know we all have a similar dream     
Go in your pocket pull out your wallet     
And put it in the air and sing     

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Top secret

     วันนี้คงเป็นวันที่ต้องเคลียร์ทุกอย่างชะล้างเรื่องราวที่ก่อเขม่าควันในใจมาหลายสัปดาห์ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจให้ยอมรับ แต่มันมีสัญชาตญาณบ่งบอกว่า Badday มากกว่าเป็นวันที่ดีๆ เหมือนทุกอย่างมันผ่านมาถึงจุดที่ดิ่งลงในวามสัมพันธ์ แต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่เกิด อาจเป็นการเคลียร์กันในแง่ความเข้าใจหรือข้อตกลงเบื้องต้นในทุกเรื่องที่จะมีกันต่อหรือไม่มี ก็สุดแท้แต่โชคชะตาฟ้าลิขิต เราคงทำได้ดีที่สุดระหว่างความสัมพันธ์ของเราเท่านี้ ไม่ต้องห่วงโลกมืดในที่นี้เพราะคงไม่มีใครเข้ามาสนใจใส่ใจถ้อยคำที่พร่ำเพ้อไปวันๆ รับรองว่าระหว่างเราจะเป็นที่สุดของความลับแม้ความสัมพันธ์จางหายสัญญาว่าจะไม่ต่อความยาวสาวความรู้สึกออกมาแพร่งพราย คงมีเพียงแต่ในกระจกเงาแห่งกาลเวลาที่น้อยคนที่จะใช้กล้ามเนื้อลายและสมอง กดคลิกเข้ามา ขอให้สบายใจโลกความจริงที่คู่ขนานไปกับสิ่งนี้จะคงอยู่และไม่ทรยศต่อการดำรงชีวิตของเธออย่างแน่นอน แต่ก็ขอบคุณที่ยังเข้ามาสะท้อนสิ่งที่พบเห็นและอ่านมัน มันไม่มีอะไรมากไปกว่า จิตใต้สำนึกที่จริงและเที่ยงตรงต่อความรู้สึกของคนคนนึง

   Unconscious mind in my mind ยังคง Freeze ความรู้สึกนี้ต่อไปจกว่าจะถึงวันที่เคลียร์ทุกอย่างระหว่างเรา

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

share

      ไม่เคยรู้เลยว่าเพราะเหตุใด ทำไมจึงรู้สึกกับคนคนนึงได้มากมายในฃ่วงเวลาที่จำกัดและแสนสั้น เหมือนเป็นความฉาบฉวยทางความรู้สึกแต่ผลกระทบมันสะท้อนให้รับรู้ว่ามันยิ่งใหญ่ ทำไมต้องเฝ้าทุกข์ใจกับเหตุการณืที่ล่วงเลย หลายวันแต่มันยิ่งตอกย้ำความผิดสะสม ส่วนแบ่งทางความคิดทั้งหมดถูก Share ให้กับเรื่องนี้มากไปรึป่าว ถามตัวเองตอบได้เลยว่าแค่ส่วนเสี้ยวเดียวของชีวิตที่ดำรงอยู่ แต่มันกับทำให้ชีวิตส่วนใหญ่เคลื่อนตัวได้ยาก แต่ค้างคาอยู่กับภาพ ประโยค ถ้อยคำ น้ำเสียง ไม่มีใครจะให้ข้อสรุปได้นอกจากการเปิดฉากคุยกันอย่างเปิดอกอีกครั้ง ขอโทษที่ต้องทำให้ลำบากใจซ้ำสอง แต่ความพยายามครั้งสุดท้ายครั้งนี้มีเดิมพันสูง เธอคงไม่รู้ถึงเบื้องลึกในจิตใจที่พยายามบอกไปเมื่อปลายค่ำคืนที่ผ่านมา หวังว่าเธอจะเข้าใจเสี้ยวนึงของเจตนาในการที่จะรักษาสัมพันธภาพที่พิเศษเอาไว้ ขอร้องอย่าเพิ่งถอยหนีไป อย่าเพิ่งตัดสินว่าตัวตนที่เห็นผ่านค่ำคืนที่โหดร้ายเป็นจริง เพราะผู้ชายคนนี้สำนึกถึงเหตุที่มาที่ไปรวมถึงสิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดผลตามมา ด้วยเหตุนี้จะหันหลังให้กับสิ่งที่คนไทยกว่า 2 ล้าน คนกินดื่มเป็นประจำ ไม่ใช่เพราะติ๋วที่เข้ามาเปลี่ยน แต่อยากเริ่มทำอะไรที่เป็นสิ่งดีๆที่มีผลต่ออนาคตอันใกล้และไกล ขอให้รู้ว่าอย่างน้อยถึงผลตอบกลับอาจจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานนับเดือนนับปี ถึงแม้ในความจริงอันใกล้เราอาจไม่ได้พบปะกัน แต่ขอให้รับรู้ว่าความรู้สึกผิดจะไม่เลือนหายจนกว่าน้ำแก้วใหม่จะมาชะล้างสิ่งเก่าๆนั่นหมายถึงการกลับมาอีกครั้งของเราจะได้มั้ย

 วันที่ทุกอย่างเริ่มจริง และตรงอย่างที่สุด ถ้ามีความรู้สึกนั้นเพียงเสี้ยวอย่าโกหกตัวเองและเก็บงำไว้คนเดียวเพราะคงมีใครอีกคนต้องเสียใจกับการไม่กลับมาทำสิ่งที่ใจปรารถนา 

ว่างเปล่า

ฉันมันไม่มีวาสนา ฝืนดวงชะตาก็คงไม่ได้ เห็นเธอนั้นไปดี ฉันเองก็ดีใจฉันไม่หวังอะไรมากไปกว่านี้

เกิดแล้วตายอีกกี่ครั้งยังไม่มีสิทธิ์ ที่คิดว่าเราต่างเป็นคู่กัน...

พรุ่งนี้ที่ว่างเปล่าทั้งจินตนาการในการจะดำเนินชีวิตต่อไป ขาดหายมิติที่คุ้นชิน ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะต่อเติมกำลังใจ หายไปมันหายไปจากวันก่อนเพิ่งรู้ว่ามันสำคัญ มีคนเคยบอกถ้าไม่สูญเสียบางอย่างก็คงไม่รู้คุณค่าสิ่งนั้น เหมือนดั่งตัวฉันที่ไม่รู้ว่าคืนวันที่ผ่านมาว่าใครคือคนสำคัญ...

ความข้องใจต่างๆเริ่มคลี่คลายว่าเหราะเหตุใดเธอจึงหลีกไกลจากวิถีทางหัวใจของชายด้อยค่า สติปัญญาหลุดลอย เสียดายคืนวันที่ล้ำค่าแต่กลับรักษาโอกาสนั้นไว้ไม่ได้  ไม่รู้ ไม่รู้... อยากทรยศต่อความทรงจำของตัวเอง แต่กลับลืมช่วงเวลาดีๆสั้นๆของเราไม่ได้แม้แต่วินาที แววตา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเธอยังอยู่ในโสตประสาท ขอเถอะคนดีช่วยเลือนหายไปจากฉันที ว่างเปล่าในจิตใจแต่สมองกลับยากที่จะลืมเลือน ญ ผู้มีกลิ่นจัน

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แล้วฉันก็จะไป

       รู้แล้วว่าสายไป รู้แล้วเธอรักใคร...ขอให้ฉันหายใจอยู่ด้วยกันไปอย่างนี้ซักนาที ไม่ต้องพูดอะไร ก็แค่อยากให้รู้ใจว่าคิดถึงมากมาย แค่นาทีเงียบงันที่เธอให้ฉันไม่ขอเธอมากกว่านี้ แล้วฉันก็จะไป...จะไม่โทรมารบกวนไม่โทรมาวุ่นวาย แค่รู้ว่าเธอสบายอยู่กับคนที่เธอรักเค้ารักเธอ ก็เข้าใจดีใจด้วยคน

กลับไปเชียงใหม่พร้อมกับสถานะที่เปลี่ยนแปลงและต้องสะสางสิ่งต่างๆในช่วงนับจากนี้ไปถึงศักราชใหม่ที่เดียวดายไร้คนข้างใจเหมือนวันก่อนหน้า ซึ่งมันก็ไม่มีมานานแล้วเพียงแต่คิดฝันไปเองทั้งนั้น เมื่อไรจะตัดขาดความฝันออกจากความจริงได้ซักที คงไม่มีผู้ใดเคียงข้างเข้าใจในคืนนี้หรือคืนไหนไปจนตลอดชีวิตก็เป็นได้ หรือชีวิตนี้จะต้องอยู่เพื่อที่จะเรียนรู้ต่อเติมสิ่งต่างๆที่ขาดหายด้วยตัวเอง

ไม่ต้องห่วงมันจะแข็งแรงกว่าเดิมเพราะที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณที่ยังให้อยู่ในโลกใบเดียวกัน ในสังคมที่อาจจะพบเจอกันอีกในสถานะที่ต่างออกไป ลาก่อน

หนักเกินไป

โลกหนักถ้าเราแบก แต่เมื่ออะไรมันดิ่งลงถึงที่สุดแล้วมันก็จะดีดตัวกลับขึ้นมาเสมอตามหลัก Physics ขอจมอยู่กับอารมณ์ที่ยากเกินอธิบายให้ถึงทีุ่ดแล้ววันพรุ่งนี้จะกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง

"ขอโทษจริงๆนะ ติ๋วเปิดใจเต็มที่แล้ว แต่มันไม่เป็นอย่างที่ติ๋วคิดไว้
ติ๋วก็รู้สึกแย่ ตอนนี้ก็ไม่รู้ทำไง เหวี่ยงไปหมด"

ดังก้องอยู่ในหัวนับล้านครั้งความถี่ทุก 1 นาทีเมื่อไรจะสลัดความรู้สึกและเสียงสะท้อนวลีสั้นๆนี้ออกไปได้ซักที คงต้องรอให้เซลล์สมองลำเลียงน้ำตาที่คั่งอยู่ในสมองส่วนความทรงจำไปทำลายในพื้นที่ที่ไร้ขอบเขต ขอเวลาที่จะอธิบายสิ่งต่างๆที่ไม่เคยพบเจอกับประสบการณ์รักแบบฉบับพิเศษ ขอเรียบเรียงเรื่องราวทุกตัวอักษรภายในใจซักพักนะคะ

ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน...

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อ้อมกอดสุดท้าย

ความรู้สึกสุดท้ายกับอ้อมกอดสุดท้าย อบอุ่นและเหน็บหนาวในคราวเดียวกันเมื่อได้รับรู้ว่าฉันไม่ใช่ ไม่เหลืออะไรเลยแหลกสลายลงไปกับตา เหลือเพียงทรายที่ว่างเปล่ากับน้ำทะเลเท่านั้น

กว่าจะรวมจิตใจเก็บทรายสวยๆมากอง ก่อประสาทซักหลัง...แล้วทะเลก็สาดเข้ามา...มันคงเป็นคำตอบที่ซักวันก็ต้องรับรู้เมื่อความปรารถนาของเธอขัดแย้งกับสิ่งที่เห็นและเป็นในเงาของชายคนนี้ ขอบคุณที่ยังมอบอ้อมกอดสุดท้ายที่อบอุ่น ว่างเปล่า และเหน็บหนาวในคราวเดียวกัน จะไม่มีวันลืมเหตุการณ์และความรู้สึกนี้ไปจนกว่าเซลล์สมองจะละทิ้งความทรงจำดีๆระหว่างเรา ขอบคุณอีกครั้ง ญ ผู้มีกลิ่นจัน

พอใกล้กันแล้วมันไม่ใช่

     คงคิดฝันไปไกลเกินทำให้ต้องรู้สึกแบบนี้ แปลกจริงที่เวลาจะลองเริ่มรักใครแต่ มันก็มักมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ รู้สึกดีซึ่งกันและกันแต่เมื่อเธอเอ่ยว่า เมื่อมาเรียนรู้ใกล้ชิดแล้วความรู้สึกมันไม่ใช่ ก็เข้าใจได้กับเหตุการณ์ที่เป็นไป แต่ก็อดช็อกไม่ได้เลยกับความหวังที่พังทลายโดยไม่ได้เตรียมใจกับมัน คาดหวังมากก็เจ็บปวดมาก ไม่มีใครผิดกับเรื่องราวที่มันมาถึงจุดนี้ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตนเอง เธอก็เช่นกันคงไม่อยากต้องทนกับชายที่เต็มไปด้วยอดีตสิ้นหวังคิดวกวน ไม่มีแม้ความหวังในการหล่อเลี้ยงชีวิตที่ขาดหาย ไร้จินตภาพในการสร้างสรรค์เชิงสังคม ครอบครัว วันที่ต้องกลับมาอยู่กับตัวเองอย่างจริงจัง ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกดีๆและในขณะเดียวกันก็ทำให้ได้รู้ว่า ความสัมพันธ์เราคงเป็นได้ที่ปรึกษาในSocial network แต่เมื่อมาพุดคุยใกล้ชิดกลับเกิดความรู้สึกปฎิปักษ์ต่อความรัก อะไรที่ไม่ใช่ก็อย่าฝืนนั้นถูกต้อง แต่เธอรู้บ้างไหมว่าได้ทำให้เศษใจของชายสิ้นหวังคนนี้ละเอียดเป็นผุยผง เบื้องหน้าของการแสดงคงต้องพบเจอและยิ้มให้ด้วยความอบอุ่นแต่ภายในนั้นมากมายที่จะเอ่ย มันไม่มีอะไรที่ต้องพูดไปอีกแล้ว เพราะใครที่เข้ามาก็จะรับรู้ความเป็นตัวตนแบบนี้ไม่ค่อยได้และถอยห่างออกไปตามกาลเวลา เมื่อไรที่จะเกิดความรู้สึกดีๆแบบที่มีกับจันทนีได้อีก หรือไม่มีแล้วหัวใจความรักสำหรับคนแปลกแยกที่เหมือนอยู่ลำพังในโลก

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หูมีเยอะ (หูอื้อ)

           เพลงนี้เป็นของเธอผู้เดียวนะ ความข้องเกี่ยวนิดเดียวที่ฉันมี หากแม้แต่ขอเพียงให้เธอนั้น หมั่นให้ความสำคัญ....
           หู คอ จมูก เกี่ยวเนื่องกันฉันใด เหตุใดจึงทำให้ไมได้ยินเสียงของตัวเอง คำพูดที่ผิดคีย์ ทำให้สื่อความหมายผิดพลาด วันนี้คงเป็นความตั้งใจที่เกิดขึ้นหวังว่าคงมีอะไรที่ต้องคุยกันอย่างเปิดเผยซักที ไม่อยากค้างคาแบบนี้ แต่ก็ยังหวั่นกับความสัมพันธ์ที่ไม่เคลียร์ ขอโทษที่หายไปจากสารบบของคนคนหนึ่งแต่เธอคงรู้ดีว่ามันเกิดอะไร อย่างน้อยเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เหมือนเดิม เพราะแรกเริ่มเดิมทีก็เป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ เมื่อมันไม่อาจตอบสนองสิ่งที่อยู่ข้างในได้ก็คงต้องเปลี่ยนสถานะเหมือนสสารที่เปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาแต่สุดท้ายมันก็ยังคงอยู่ในโลกแม้จะเป็นเพียงฝุ่นละอองหรืออากาศก็ตามที
           เคยมีบางเพลงที่เพราะบางเพลงที่มีความหมายในช่วงเวลาต่างๆของชีวิตไม่นึกว่าเพลงมากมายได้ถูกหลงลืมไป และกลับมาดังกึกก้องในโสตประสาทอีกครั้ง แต่มันจะก้องกังวาลนานเท่าใดไม่มีใครตอบได้เท่ากับคนสองคนที่กำลังจะเริ่มสานความสัมพันธ์ ตอบตัวเองไม่ได้เลย ว่ามันจะดีหรือร้าย ไร้บทวิเคราะห์ทางวิชาการ ไร้ตัวแปรที่มีน้ำหนัก เพราะมันวัดค่าทางความรู้สึกที่ไม่มีตัวตนไม่มีหลักการประเมิน ยากแท้หยั่งถึง จึงใคร่ไขว่ขว้า เพื่อให้ได้มา ทุกคราหลับฝัน ขอเพียงซักวัน เธอนั้นแนบใจ
           

          ปล่อยมันไปเพราะถึงอย่างไรรักนั้นก็สวยงาม Super Baker
          

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Virus กัดกร่อนลุกลามถึงขั้วหัวใจ

      อาการมันฟ้องทางด้านร่างกายลุกลามรวดเร็วเข้าสู่โหมดของความเมื่อยล้า ไวรัสกัดกร่อนระบบทางเดินหายใจ ปฎิชีวนะหลายขนานช่วยกระตุ้นปฎิกิริยาทางเคมีในร่างกายแต่ก็ยังไม่เป็นผล คงเพราะความเหนื่อยล้าภายใน ขาดการผ่อนพักตระหนักรู้ เครื่องจักรที่มีเลือดสูบฉีดภายในกำลังอ่อนแรง ต้องการยาดีมาเยียวยารักษาโดยพลัน วันนี้คงเป็นอีกวันที่ต้องพักผ่อนจัดการสิ่งต่างๆเพื่อตระเตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย หัวใจ
      เวลาดีๆอย่างนี้ ... เธอไปอยู่ไหน ฉันแค่คิดถึงเธอ เวลาที่เจอความงดงาม และอยากรู้เวลานี้เธอเป็นอย่างไร คิดถึงฉันบ้างไหมคนดี

      กายป่วยจิตป่วยแต่ก็ยังดีที่ได้รับรู้ว่าทุกๆวันมีคนที่ห่วงใยเรา้พิ่มขึ้นมาอีก 1 คนคงไม่มากไปถ้าจะบอกว่ามันเป็นเรื่องตั้งใจมากกว่าความบังเอิญ ทุกอย่างที่เราตัดสินใจมันเกิดจากความตั้งใจ จะไม่เสียใจที่ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตอีกครั้ง
      ถึงไ่ม่ได้ดู room 39 แต่เราคงไ้ด้พูดคุยกันท่ามกลางบรรยากาศดีๆที่ไหนซักแห่งบนโลกเชียงใหม่ ใบใหม่ของเราใบนี้ จะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสัญญาได้ไหมว่าเราจะเป็นเหมือนวันที่เราได้พูดคุยกันเพราะถ้าเราไม่พอใจในสิ่งที่แสดงตั้งแต่แรกคงป่วยการที่จะมาเรียกร้องเพื่อหวังให้ใครเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอารมณ์ของอีกคน จะเริ่มเทใจใส่ให้ละเตรียมรับไว้ให้ดีละกัน

JTN & JNT

ต่อมยับยั้งชั่งใจกำลังบกพร่อง

จะเกิดอะไรต่อจากนี้ให้ความรู้สึกเป็นผู้ถือตะเกียงนำทางจะไม่คาดหวัง จะไม่โหยหา จะไม่กังวลต่อสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง ในเมื่อต่อมยับยั้งชั่งใจเกิดอาการบกพร่องจะสุขเหลือล้นหรือต้องทนกลำกลืน คงได้รู้กันอีกไม่นาน มีเราเท่านั้นที่รับรู้ถึงสิ่งที่เราเป็นคนร่วมก่อร่างสร้างมันมาแต่แรกเริ่ม เมื่อถึงเวลาวิกฤตจริงๆคงต้องยอมเผยความในออกมาให้เห็นแท้แน่ชัด แล้วมันจะผ่านไปนะคะ
อาจจะคิดเยอะไปจนหงุดหงิดงุ่นง่านแต่ก็ไม่อยากทรยศต่อการตระเตรียมความพร้อมก่อนความสัมพันธ์ที่พิเศษครั้งนี้

วกกลับมาถึงภาระที่ต้องทำโดยเร็วมันก็ทำให้คิ้วกลับมาขมวดปมแน่นขึ้นอย่างแกะไม่ออก ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไรแต่ถ้าอดทนถึงที่สุดแล้วเชื่อว่ามันจะผ่านไปอยากกระโดดขึ้นไปอยู่บนอ่างปลาที่ว่ายวนนี้แล้วขอพลังเฮือกสุดท้ายจงอยู่กับตัวข้า

กำลังใจใหม่เอี่ยมขอให้ทำหน้าที่ด้วยนะคะ ขอโทษที่ยังพยายามดึงบางอย่างเพราะไม่อยากให้มันฉาบฉวยอยากให้คุณค่าของเรามันทวีคูณจนสูงสุด มีความสุขดีนะหวังว่าคงยิ้มออกกับความสัมพันธ์ของเรา

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ิback to the basic

แม้เส้นทางชีวิตอาจจะไม่หรู แต่ให้รู้ไว้เพียงว่าคนอย่างฉันสัญญาว่าจะรักรักเธอตลอดไป

อยากอยากที่จะลองถามว่าเธอพร้อมร่วมทาง เคียงข้างกันกับคนอย่างฉันหรือป่าว ....

          ภายในใจกลับมีภาระอันหักอึ้งขวางหน้าอีกแล้ว และต้องผ่านไปให้ได้ซะด้วยมันต้องเป็นไปได้ด้วยดี คงต้องรบกวนเพื่อนๆในการผ่านภารกิจครั้งนี้ ขอกำลังใจด้วยนะคะ แม่ สวาทcat แล้วเมื่อถึงเวลาที่สมควรเราจะได้เดินด้วยกันในหมู่ดาว

          ฉันไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ดวงดาวจะหายไปไหน ฉันไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้โลกเราจะเป็นเช่นไรแต่ฉันก็รู้หัวใจของฉัน จะมีเพียงเธอท่ามกลางหมู่ดาวจะไม่มีความเหงาเข้ามากล้ำกลายเพลงนี้เพื่อเธอมันเป็นของเธอรู้ไหม ทุกคำที่กลั่นออกมาจากหัวใจ เราจะลอยข้ามฟ้า....ไปด้วยกันนะคะ Jantanee & Jadenathee

unstoppable

         มีเรื่องราวมากมายที่ยากต่อการตัดสินใจ ยากต่อการที่จะผ่านพ้นมันไป แต่ถ้าไตร่ตรองดูให้ดีมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อนเกินที่จะเข้าใจถึงสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นไม่แปลกที่จะริเริ่มลองรักใครอีกซักครั้ง ความรู้สึกนี้คล้ายๆว่าเคยได้เจอที่ไหนมาก่อน รึคล้ายๆว่าฉันกำลังจะเดือดร้อน เธอจะเป็นอีกคนรึป่าว จะเป็นอีกคนรึป่าว อย่างที่เค้าทำกันที่ผ่านมา เธอจะเป็นอย่างเดิมรึป่าว อย่างที่ฉันนั้นเคยเจอรึยังไง จะโดนอีกทีรึป่าว ... หวั่นใจเหลือเกิน
         ในช่วงเวลาที่เหมือนจะต้องรอคอยใครซักคนแต่กลับมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นระหว่างความรู้สึกมันก็ยากที่จะปฎิเสธ เพราะเธอคงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเราแอบมีใจให้เธอในช่วงเวลานึงที่มันผ่านมาแต่ด้วยสิ่งต่างๆปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้อ เวลาสถานที่และโอกาส จึงทำให้ยังไม่เกิดวันนี้ ขอพลังแห่งความรักความเชื่อจงอยู่กับตัวเราทั้งสอง ถ้ามันจะเกิดอีกครั้งขอให้มีแต่ความเข้าใจ แรงสนับสนุนจากฟากฟ้าที่มองไม่เห็นน้อมนำเราไปสู่สิ่งที่เราต่างก็ปรารถนา เฉกเช่น วันเวลาที่เราได้คุยเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันด้วยความรู้สึกพิเศษ

         ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบานให้ฟ้าช่วยประทานพร ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพันเกิดเป็นความทรงจำที่ดี

         เราคงได้พบกันบนดวงดาวของเรานะคะ ญ ผู้มีกลิ่นจัน = จัน - ทะ -นี

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ถึงซับซ้อนแต่สวยงาม ทั้งขื่นขมและอมหวาน

         ค่ำคืนแห่งการหลงลืมสิ่งที่เป็นตัวเอง ล่องลอยอยู่กับความอบอวลของกลิ่นอายไร้สำนึกกับสองเราที่เนิ่นนานในภวังค์แต่แสนสั้นในความรู้สึก เป็นอีกวันที่ความสุขเหล่านั้นกลับมาในระยะประชิด ขอบคุณบรรยากาศค่ำคืนที่หวังว่าคงไม่ใช่ืคืนสุดท้ายมันจะแนบลึกนึกคิดไปมากมายกว่าที่เห็นและเป็นอยู่แน่ แต่คงต้องรอคอยให้อะไรๆมันชัดเจน เป็นเรื่องของเวลาที่ผูกติด เมื่อศักราชใหม่เริ่มคืบคลานเข้ามาถึงวันนั้นคงจะมีอะไรที่ชัดเจนในแงุ่มุมของความรักที่หลีกไกลได้กลับเข้ามาพบพานอีกครั้ง
         ขอบคุณที่เข้ามารับฟังความพยายามที่จะสื่อสารสิ่งที่อยู่ภายในให้ได้รับรู้ ขอบคุณที่เข้ามาทำให้รอยแยกเริ่มขยับเคลื่อนที่เข้าใกล้มากขึ้นและหวังว่าเธอจะมาสมานแผลร้ายลึกให้กลับมาจากอาการป่วยจิตเรื้อรัง และขณะเดียวกันขอโทษกับอีกฟากฝั่งที่หายไปคงเข้าใจเมื่อหัวจิตหัวใจมันเปิดกว้างก็พร้อมที่จะหักเหไปสู่หนทางที่ปรารถนายิ่งกว่า Thx & sorry


เจอมาร้ายดียังไงแต่ใจก็ยังต้องการในทุกๆวันโลกหมุนด้วยความรัก...by Crescendo

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ถ้าในโลกนี้ไม่มี...

       จะเอาดวงใจฉันค้นใจเธอให้เจอะสิ่งที่เธอนั้นเก็บไว้ ถ้าเธอมีคำนั้นไว้ในใจเธอทำไมไม่พูดมันออกมา
ฉันรู้เหมือนที่เธอรู้ ว่้าความรักต้องใช้วันเวลา...จะอยู่เพื่อจะฟังคำนั้นนั่นคือรางวัลที่ปรารถนา คุ้มค่ากับการค้นใจของเธอ

        ตื่นมากับความทรงจำเลอะเลือน จำได้เพียงว่าเมื่อคืนได้รับรู้ความรู้สึกที่หลอกหลอนตัวเองอีกครั้งกับสิ่งที่ทำลายและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆมากมายบนโลกใบเล็กๆใบนี้ ถ้าในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความรักทุกๆคนรวมถึงเราก็คงไม่มายืนถึงจุดที่สูงชันและหนาวเหน็บแบบนี้ บ้างก็เปรยว่าความรักเปรียบเสมือนเหมือนอากาศ ที่มันช่วยหล่อเลี้ยงให้ทุกชีวิตได้คงอยู่ มีลมหายใจ โลกหมุนด้วยความรัก...

        แต่กับวันนี้วันที่ต้องฉุกคิดกับก้าวต่อไปของความรักที่กำลังจะเข้ามาทบทวนตัวเองหลากหลายมิติก็มองไม่เห็นว่าถ้าเกิดขึ้นจริงเราจะควบคุมและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขอีกครั้งรึป่าว เหมือนจิตใจห่างเหินกับความรักใคร่ที่แนบสนิทใจแบบที่คนส่วนใหญ่ในโลกนี้เค้าเป็นกัน ความเข็ดขยาดกับหลายครั้งทำให้รู้สึกหวาดหวั่น แต่จะเกิดอะไรต่อไปก็คงไม่ทำให้ความเชื่อในตัวตนและความสัมพันธ์เกิดการกระทบกระเทือนไปได้ จงอยู่กับสิ่งที่ผ่านเข้ามาให้มีความสุข

       สสารที่มีในโลกเมื่อเทียบกับปฎิสสารที่อยู่ในจักรวาลมันเทียบกันไม่ได้ เช่นเดียวกันกับความคิดเล็กๆกับความรักที่มืดบอดยังอ่อนด้อยเมื่อเทียบกับเรื่องราวของความรักมากมายที่อยู่ในโลกนี้ ไม่รู้ว่าเธอจะคิดอย่างไร เมื่อจิตใจมันเกือบจะเตลิดเปิดเปิง อย่ามาทำให้เป็นแบบนี้ได้รึป่าว เหมือนจะนิ่งกับความสัมพันธ์แต่ข้างในมันยิ่งกว่าพายุสุริยะเธอรู้รึเปล่า

สิ่งที่ฉันเป็น

อะไรอะไรเดิมๆแต่สิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปมันกลับไม่ได้ทำให้เรารู้สึกกระตือรือร้น น่าแปลกที่ความทรงจำดีๆมันเลือนลางจางหาย เหลือเพียงเงาบางซ่อนตัวอยู่ในก้านสมองส่วนสูญเสียการควบคุมด้วยซ้ำไป 

การต้องต่อสู้กับตัวเองนี่มันเจ็บปวดท้าทายดีแท้ "ลับแลแก่งคอย" อีกเล่มของซีไรท์ ที่อ่านทีไรก็สำเหนียกในชีวิตซะจริงนะมึงเนี่ย 

ทุกๆวันและทุกๆเรื่องราวที่ผ่านนอกจากบ่นกับชีวิตความท้อแท้และรักไร้หลักแล้วแทบจะหาสิ่งที่เป็นคุณูปการต่อชีวิตไม่เจอ

เวลาระยะทางและจักรวาลไม่อาจขวางกั้นสิ่งที่อยู่ข้างในการยืดหดของห้วงเวลาอาจเกิดขึ้นได้ตามทฤษฎีที่ขัดแย้ง แต่จะมีใครที่จะข้ามผ่านช่องว่างแห่งห้วงอารมณ์มนุษย์ที่สลับซับซ้อนไปสู่ความสุขปลายแสงอุโมงค์อันมืดมิด บัดนี้สิ่งที่หล่อหลอมความนึกคิดมันสุขงอมมากแล้วแต่ยังไม่เห็นหนทางที่จะปลดปล่อยพลังงานที่สะสมเก็บงำกับความหลังเลวร้ายร้อยเรื่องราวกับสิ่งที่ผ่านมาวันนี้มีข้อแม้ทางธรรมชาติอยู่หลายสิ่ง ก็คงเป็นอีกแบบฝึกหัดนึงที่ต้องการคำเฉลย 

ขอโทษที่หลายครั้งหลายคนยากจะเข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่ มันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมีซักชีวิตที่ต้องรองรับเรื่องราวตัวตน เพราะมันคือ"สิ่งที่ฉันเป็น"

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Internal factor

ภายใต้ความฮาและขำของการสนทนาน่าจะมีสิ่งที่อยู่ภายในเป็นความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้นในภาวะความกดดันรอบด้าน กำลังจะเกิดอะไรขึ้นรึป่าวสัญชาตญาณแห่งความรักมันบอก ว่ามาแรงแซงโค้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆอย่าง คิดไปเองก็จิตป่วย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุและผลของลำดับเหตุการณ์ละกันนะคะ

ความสนใจและใส่ใจ กับข้อความต่างๆทำจิตใจหวั่นไหวว้าวุ่น แม้จะไม่มีสัญญาณชัดเจนแต่ก็ทำให้อีกฟากนึงมันมืดบอด เหมือนจะแอบหายไปแต่วันที่ฟ้าเปลี่ยนสีกลับเข้าสู่สภาวะเดิมแล้ว เราจะกลับมา หนทางแยก2แพร่งมันไม่มีสิทธิ์เลือกรูปแบบความสัมพันธ์แต่มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ถึงความรู้สึก ของแต่ละฟากฝั่ง ก็ยังไม่รู้...แต่ให้เธอลองคิดดูสิ่งที่ฉันทำ เธอไม่ต้องกลัวมันแค่เรื่องของหัวใจ และฉันเองก็อาจจะไม่ใช่เธอแค่ลองเปิดรับหัวใจของฉันหน่อยจะได้ไหม

น่ารักแต่ยังรักไม่ได้เพราะขีดจำกัดบางอย่างให้เธอเข้ามาให้สุดเส้นทางแล้วฉันจะห่อหุ้มทุกอย่างไว้จนเธอออกไปจากใจฉันไม่ได้ เข้าใจมั้ยค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Parallel Equation

เย็นย่ำกับความสัมพันธ์แบบเส้นขนาน รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางมาบรรจบกันแต่ก็ยอมทุกข์ทนบนความสุขชั่วครั้งเธอก็น่ารักในแบบของเธอใครบ้างจะไม่หวั่นไหวไปกับท่าทีปนกับธรรมชาติของอุปนิสัยที่เราก็คุ้นเคยในรูปแบบที่สร้างความสุขภายในได้เป็นอย่างดี เสน่ห์หา มันเป็นแบบนี้เองหรือ อยู่กับความสดใสที่ถูกปลดปล่อยออกมาภายใต้ภาวะกดดันทางตัวตนและครอบครัวของเธอคงมีความสุขดีนะ ดีใจด้วยที่มีส่วนสร้างความสุขเล็กน้อยเช่นเดียวกันเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนเติมเต็มให้แก่กัน

แต่ย้อนกลับมามองในความเป็นจริงสมการแบบนี้คงไม่มีน้ำหนักมากพอหรืออาจไม่มีตัวแปรใดเลยด้วยซ้ำเพราะในแง่ความเป็นไปได้ทั้ง2เส้นที่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้แค่ปัจจัยภายนอกห่างๆไกลๆที่มีอิทธิพลตอนที่ดวงอาทิตย์ดับแสงจันทราเลือนหายในคืนเดือนมืด เมื่อรัตติกาลสว่างจ้าดาวดับดวงนี้คงต้องโคจรหลุดลอยออกไปอยู่ในต่ำแหน่งเดิมของมัน คิดถึงคนมีเจ้าของก็ต้องเป็นแบบนี้ เจอกันช้าไปแต่ดีกว่าไม่เจอแค่นี้ก็มีความสุขดีแล้วนะคะ 

ตอนนี้ความรู้สึกถูกแชร์ซ้ายขวาไม่เข้าใจเหมือนกันกับสิ่งที่เธอทั้งสองเป็นอยู่ตอนนี้ขอรับความเสี่ยงนี้ไว้เองละกันนะคะจะจบจะเจ็บยังไงก็คงได้เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เพราะมันไม่มี ไม่มีตั้งแต่แรกของความสัมพันธ์ของเราแล้ว
 

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โทร โธ่ โทร โถ

การที่ฉันโทรมา มาจากนิ้วสัมผัส การที่นิ้วสัมผัส จากสมองสั่งการที่สมองสั่ง มาจากหัวใจ โทร โธ่ โทร โถ

นอนแล้วเหรอคะ ไม่เป็นไรนะ ประโยคสั้นๆ แต่ก็เป็นอะไรที่ชินชา กับค่ำคืนที่เมามายไปกับฤทธิ์น้ำอำพัน 

ตายละวาเกย์เต็มไปหมด เพิ่งรู้ว่าเราก็ hot ในหมู่เกย์เหรอวะเนี่ย เหอๆๆ 

ยังไหวอยู่กับวันสุดท้ายของสัปดาห์แต่ไม่ใช่วันสุดท้ายของภาระทั้งตัวและหัวใจ ทั้งความจริงและความฝัน

เย็นนี้คงเป็นอีกวันที่น่าจดจำกับอาหารค่ำที่แสนธรรมดาแต่คงอบอวลด้วยความรู้สึกพิเศษที่แตกต่างกันในด้านความสัมพันธ์ที่แปลกไป ก็คงเป็นอีกวันก่อนที่จะต้องกลับมาสะสางสิ่งที่ผูกติดกับตัวเอง อยู่กับวันหยุดยาวๆที่แสนเดียวดาย อยากกลับไปหาแม่จัง แต่ก็คงต้องดูอะไรหลายๆอย่างที่เกี่ยวเนื่องกัน 


Nobody is perfect....to be continue

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันที่ฉันป่วย

คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง วันที่เปื่อย กับอาการเดิมๆทุกฤดูเหมันต์ ภูมิแพ้แท้จริงแล้วแพ้อะไรกันแน่ แพ้ความเหงารึว่าแพ้ความขาว เหอๆ

วันที่อะไรๆก็ผลักหักเหให้ทำอะไรตรงข้ามกับความรู้สึก

มันเป็น effect ของยาก่อนอาหารรึป่าวที่ทำให้ความนึกคิด วิตกล่วงหน้ากับสิ่งที่ยังไม่เกิด เมื่อความสัมพันธ์ต่างๆมันพรวดพราดรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับอีกฟากฝั่งที่ หยุด ค้างคากับความสัมพันธ์ ที่มันเริ่มห่างไปตามตัวและหัวใจ มันเป็นกฏที่ง่ายดายของความสัมพันธ์ เนื้อตัวอยู่ใกล้ หัวใจแนบชิดมันก็แน่นอนที่จะเหินห่างไปกับคนที่หัวใจห่างหาย กายไม่เคยแนบกัน ไม่มีใครทรยศต่อกฏข้อนี้

คงต้อง Heal ตัวเองให้แข็งแรงทั้งตัวและหัวใจเพื่อเริ่มต้นใหม่ในวันที่แสงตะวันแรกยิ้มรับทักทาย บายนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันที่พ่อไม่รับสาย

ถนนคนเดินในวันพ่อกับผองเพื่อนจากเมืองสองแคว ผู้คนมากมายรายล้อม เดินเตร็ดเตร่อยู่กันสองคทาชายนายหนุ่ม นานๆจะได้พูดคุยเรื่องราวเก่าๆความฝั่นใฝ่ในอดีตถึงอนาคตก็เป็นอีกอารมณ์ที่ขาดหาย

เพื่อนเอยเจ้าก็มีชีวิตที่ดีในรูปแบบแตกต่างกันไป ขอให้เพื่อนมีแนวทางที่ดีชัดเจนและเราคงกลับมาพบกันใหม่ สองสามวันกับการติดกับดักของอารมณ์ แต่ก็มีอะไรๆให้คิดในอีกมิติหนึ่ง เรื่องราวเ่ก่าๆในอดีตที่เมื่อพูดคุยเมื่อไรก็สนุกปากและรู้เท่าทันกันทั้งนั้น แต่วันที่โทรหาพ่อแล้วไม่ัรับสายตั้งหลายครั้งนี่สิ ก็ไม่รู้ชีวิตที่โดดเดี่ยวยังต้องการครอบครัวอยู่รึป่าว ต่างคนต่างมีชีวิตและกระทำตามกรรมที่ได้ก่อเป็นเงื่อนไขของธรรมาชาติที่แสนเที่ยงตรง

แล้วเรื่องหัวใจเราล่ะมันหายไปไหน คิดถึงน่ะคิดถึงตลอดแต่ในเมื่อคิดแล้วไม่ได้อะไรแถมยังต้องโดนแรงสะท้อนกลับมาทำให้ใจหดหู่อีก เหมือนเตะฟุตบอลอัดกำแพงยิ่งแรงเท่าไรมันก็จะกลับมาหาตัวเราเท่านั้น คงต้องอยู่นิ่งๆซักพักเพื่อปรับระดับหลายๆอย่าง การอยู่แบบรอคอยความหวังนี่มันช่างทรมานเสียชิบ

ฟังเพลง Lucky ของ Room 39 กี่ครั้งก็มีความสุขทุกที..... คิดถึงทุกคนที่ผูกติดกับวิญญาณด้านความหลงของผู้ชายที่ติดกับดักอารมณ์ของตัวเอง นะคะ  Pimnara & Nilvila

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณจากสิงค์โปร์

ค่ำคืนที่ว่างเปล่ารอคอยสหายแดนไกล จากเมืองสองแคว กว่ามึงจะถึงวอร์มคงปิดละล่ะ แล้วพรุ่งนี้วันพ่อเค้าจะขายเหล้ามั้ย เอาพวกมึงว่าละกาน

มีสายเข้าจากสิงค์โปร์ หลังการกลับมา อาจมีอะไรๆเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ไม่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรกับเธอคนนี้หรือเป็นแค่น้องที่เค้าต้องการที่ปรึกษาในช่วงเวลาเลวร้าย หรือตั้งใจที่จะเลวร้ายจึงมาคุยกันแบบนี้แต่ก็ช่าง จะอะไรก็ตามมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เข้ามา

คงไม่มีใครสนิทใจกับความบกพร่องในความสัมพันธ์ อีกคนตั้งใจที่จะเข้าไปแต่ไร้ผล อีกคนไม่ได้ตั้งใจแต่เหมือนกับว่าจะมีอะไร

คนบนดอยจะเป็นยังไงบ้างน้า จะคิดถึงคนข้างล่างบ้างรึป่าว ดูจากทรงแล้วเค้าคงมีความสุขกันดี เตรียมฮันนีมูน เหอๆๆ ตลกไม่ออกนะมึงเนี่ย

ยังจะโทรมาชวนไปแรดอีกนะคะน้องฟ้าพี่เจ็บคอจ้าไม่ไหวจริงๆ แล้วไม่ต้องมาบอกว่าโสดพี่เบื่อ

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ที่ว่างระหว่างนิ้วมือ จะมีไหม...

บางทีพระเจ้าอาจสร้างที่ว่างระหว่างนิ้วมือของเราเพื่อที่จะรอมืออีกมือของคนอีกคนหนึ่งมาประสานแนบไปกับมือของเรา วันนั้นจะมีมั้ย...

วันที่กลับมาทำอะไรๆ วกวนซ้ำเดิม ส่วนหัวใจไม่มีมันคงติดตามใครคนหนึ่งที่เค้าคงมีความสุขกับคนของเธออยู่บนที่สูงแต่ไม่เหน็บหนาวทางหัวใจเหมือนคนที่อยู่บนพื้นราบ

คงไม่มีอะไรที่ต้องค้นหาอีกแล้วกับผู้ชายอย่างเรา มันคงเร็วไปกับความสัมพันธ์ไม่ถึงสองเดือน แต่ในมุมกลับถ้าเป็นปอก็คงไม่รู้จะคุยอะไรอีกกับผู้ชายแบบนี้ มันผุพังไปด้วยอดีตและตัวตนที่ขมขื่น หักเห อารมณ์แปรปรวน หรือจะจบที่ตรงนี้ ไม่มีมิติในใจอีกด้านที่มองอะไรๆในแง่ดีบ้างเลยเหรอวะเราเนี่ย ก็เค้าไปเที่ยวกับแฟนมึงไปเดือดร้อนอะไร มึงเป็นใครไอ้บ้า รู้ซะมั่งดิ

ทำไมต้องจบลงที่การแดกเหล้าทุกครั้ง และก็ไม่เคยเข็ดที่ต้องแอบรักแอบคิดถึงแฟนคนอื่นอาจเป็นเพราะ

"เหล้าทำลายแค่ตับ แต่ไม่ได้ทำลายหัวใจมั้ง"

ไม่มีใครรู้วันแรกของวันที่เหลืออยู่จริงๆ

แล้วสิ่งที่แปรผันมันก็ผันผวนวกกลับมาในแนวทางที่ต้องเตรียมจิตใจและร่างกายให้พร้อมเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่แสนสันดาน สรุปมึงจะเอาไงกันแน่ จบ

ค่ำคืนแห่งดวงดาวกับเวลาแค่ 2 ชั่วโมงกลับมีความหมายกับสองชีวิตที่เรียงร้อยถ้อยคำ พรั่งพรู เนิ่นนานที่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นความพึงพอใจของ 2 ดวงดาวที่ล่องลอยในมิติแห่งความสัมพันธ์ที่แตกต่างซ่อนเร้น แอบลับลวงพรางแต่เปิดเผยในแง่ความรู้สึก ประหลาดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นพร้อมยินยอมหรือถูกจิตใต้สำนึกบังคับให้ตอบสนองสิ่งที่อยู่ต่อหน้าด้วยสายตาแผ่วเบาในแววตา สุดคำบรรยายในเจตนาที่เราต่างรู้ มันเกินคำอธิบาย จบและหยุดความสัมพันธ์ในความเป็นจริงไว้เพียงค่ำคืนนี้มันคงจะดีแต่เมื่อต่างฝ่ายพร้อมที่จะถูกกระตุ้นเรียกร้องเมื่อนั้นเราจะกลับมาสบตากันอีกครั้งมนค่ำคืนที่มีแต่ดวงดาวของเรา จะคิดถึงปอนะ

ถอยกลับออกมาจากห้วงใจกลางความสงัด ยังพบเจอข้อความจากคนที่เพิ่งผ่านเขามาแนบความรู้สึกพิเศษที่ต่างก็รับรู้ถึงครรลองของเธอที่ไม่สามารถก้าวข้ามความอิสระในการใช้ชีวิตได้ เที่ยวให้สนุกนะคะ เอาลอดช่องสิงค์โปร์มาฝากด้วยนะคะ จะคิดถึงเสมอจนกว่าวันที่ความสัมพันธ์มันจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
และสุดท้ายก็ไม่มีข้อความสุดท้าย

จนกว่าจะพบกัน จงทำทุกวันให้มีความสุขเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าวันไหนจะเป็นวันแรกของวันสุดท้ายที่เราจะมีสติสัมปชัญญะ อยู่บนโลกนี้

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สุดสัปดาห์ที่ต้องจริงจังซักที

สุดสัปดาห์ที่หลายๆคนมีวันหยุดยาวสามวันอยู่กับครอบครัว ท่องเที่ยวตามที่ใจปรารถนา แต่คนบางกลุ่มต้องตรากตรำทำงาน และก็มีคนบางส่วนของสังคมไม่ได้หยุดพักผ่อนเพราะเก็บสะสมเรื่องราวความยุ่งเหยิงของงานที่ค้างคาอยู่กับเงื่อนเวลา ที่จะต้องทำให้เสร็จควบคู่กับภาระขาจรที่มาจากความควบแน่นของงานหลายดานที่ไม่เป็นหมวดหมู่ไร้ะเบียบ ฟางเส้นสุดท้ายที่มีมากมายหลายเส้น มันพรั่งพรูออกมาพร้อมกับความสิ้นหวัง จากเรื่องราวของความรัก

ไ้ร้ซึ่งความเห็นใจจากคนใดรายล้อม นี่อาจจะเป็นรอยต่อครั้งสำคัญที่ทำให้ความคิดความอ่านกลับไปสู่จุดดิ่งแนวแนวที่แบนราบทางอารมณ์อีกครั้ง

ติดอยู่กับเวลาที่ต้องทำให้จบลงมาไกลเกินจะไปพร่ำเพ้อแล้ว ทำซักทีเถอะ