วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข้อความจากเธอ

  • จอยรู้นะว่าพี่คิดยังไงกับจอยแต่ตอนนี้จอยยังไม่พร้อมคบกับใคร มีหลายๆอย่างที่ตัวจอยยังไม่พร้อม แต่จอยขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างที่พี่คอยทำให้จอย เป็นห่วงจอย จอยไม่รู้ว่าการที่จอยชวนพี่มาอยู่ด้วยกันเป็นสิ่งที่ผิดรึป่าว แต่การที่จอยชวนมาอยู่ตอนนี้แค่ในฐานะพี่ชาย จอยยังไม่อยากให้พี่หวังอะไรมาก แต่จอยรู้สึกว่าตอนนี้พี่คิดไปไกลแล้ว พี่อย่าลืมสิ่งที่ตกลงกันไว้กะจอยตั้งแต่แรกนะ แต่ก้อไม่ใช่ว่าต่อจากนี้มันจะพัฒนาต่อไปไม่ได้ แค่ยังไม่พร้อม จอยแคร์ความรู้สึกพี่มากนะ จอยเข้าใจในสิ่งที่พี่ต้องทำตรงข้ามกับใจตัวเอง จอยขอโทษที่ทำให้พี่รู้สึกแย่ จอยรู้สึกดีกับพี่นะ แต่ไม่รุมากแค่ไหน จอยอาจจะชอบพี่ก้อได้แต่แค่ไม่กล้าเปิดใจ พี่ไม่ได้แย่ไปกว่าคนอื่นๆหรอกติดที่จอยไม่พร้อม แค่คำเดียวไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน จอยก้อไม่รุว่า ทำไมจอยต้องทำแบบนี้ (จอยชอบเพลง)

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความเข้าใจสูงสุด

เข้าใจว่าวันหนึ่งเธอคงควานหาเจอสิ่งที่ขาดหาย
เข้าใจว่าวันนึงเราคงต้องจากกันจะช้าหรือเร็ว
เข้าใจว่าเธอลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในความรู้สึกระหว่างเราแล้ว
เข้าใจว่าเธอมีเงื่อนงำในจิตแอบแฝงสิ่งหนึ่งแต่ไม่กล้าบอก
เข้าใจว่าซักวันฉันคงรู้ความจริงเหล่านั้นที่เธอพยายามบอกผ่านการกระทำ
เข้าใจว่าตอนนี้ฉันเป็นเพียงคนที่เธอไว้ใจแต่ไม่ได้ใส่ใจ
เข้าใจว่าเธอไม่ได้แคร์ความรู้สึกเราเหมือนแรกเริ่มอีกต่อไป
เข้าใจว่าคงมีใครดูแลในส่วนต่างๆของเธอได้ดีกว่าเรา
เข้าใจว่าเธอมีโอกาสได้พบปะกับคนใหม่ๆที่ดีพร้อมและเธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้หลงใหล
เข้าใจว่าฉันหวังให้เธอเจอแต่สิ่งดีๆในชีวิต
เข้าใจว่าสิ่งที่ฉันกำลังยอม กำลังทำอยู่มันคือความสุขของฉัน
เข้าใจว่าฉันรักเธอใช่ไหมถึงยอมมาอยู่อย่างทรมานในสภาพแบบนี้
เข้าใจว่าทั้งหมดที่เขียนเป็นความจริงที่วันนี้ฉันถูกทิ้ง เป็นของตาย สำหรับเธอผู้มีทางเลือกและโอกาสที่ดีเสมอ

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นิราศ แด่เธอ"พิจิตรา"

พิจิตรา

ใบหน้าเจ้าสวยใสไร้ที่ติ  ดั่งกะทิหอมหวานปานเกสร
เหล่าผึ้งหลวงตอมไต่ใจอาวรณ์ หมู่ภมรร่อนเร่เหหักทรวง

ช่างฉอเลาะเจรจาพาใจหลง ทั้งทรวดทรงทีท่าหาใครเหมือน
จากไกลเจ้าหลายวันพลันย้ำเตือน  มิลบเลือนจากความคิดพิจิตรา

Riverside

เสียงดนตรีสากลระคนรัก  สุดจะหักห้ามจิตคิดเฉไฉ
มอลต์บาร์เล่ย์กลิ่นรสสะกดใจ  เปรยความในไขบอกออกจากทรวง

อาหารกายคลายหิวของชิวหา  อาหารตาพาเคลิ้มเริ่มหวั่นไหว
นัยตาเจ้าแฝงความตามทรวงใน  ในตาใครร้อนเร่าเท่าตาเธอ

ฤทธิ์น้ำสีอำพันปั่นป่วนจิต  เราแนบชิดกอดก่ายในสถาน
ลมหายใจรดต้นคอพอเนิ่นนาน  เริ่มประสานมือชิดติดกายกัน

ริมฝีปากโน้มน้าวเข้าประชิด ยากจะปิดกั้นโซ่เสน่หา
เราดูดดื่มท่ากลางดวงดารา  ตีสามกว่าพาจิดคิดโลเล

นิราศ กระบี่

ถึงอ่าวนางกลางฟ้ามหาสุมทร  ไกลแสนสุดเมืองเกาะเลาะริมเขา
อันดามันไข่มุกสุขใจเรา  ได้ข่าวเจ้าคลายเหงาบ้างพลางยินดี

ออกเรือไปไกลฝั่งยังคิดถึง  เฝ้าคำนึงถึงเจ้าเคล้าคลื่นหนา
ทะเลแหวกแปลกสวยสะดุดตา  มวลหมู่ปลาสีสดสะกดใจ

ผืนน้ำใสเขียวฟ้าพาใจหวิว  ลมพัดปลิวทิวเกาะเลาะหาดเหงา
หมู่ปลาเสือใหญ่น้อยร้อยพันเงา  รุมกินเจ้าขนมปังฝั่งทะเล

ดำลึกบ้างตื้นบ้างข้างเรือน้อย  ใจเหงาหงอยพลอยโศกชะโงกหิน
ทั้งหอยเม่นปลาดาวซบทรายดิน  เหมือนได้ยินเสียงเจ้า "พิจิตรา"

นิราศ ชุมพร

หาดชุมพรร้อนแดดแผดเผาจิต  ยังครุ่นคิดถึงคืนรื่นรมณ์หนาว
ทะเลกว้างผืนน้ำสุดสกาว   ป่านนี้ดาวในใจข้า...เป็นเช่นไร

กับแกล้มเบาเร้ารสสุราRED  ไกลสุดเขตสายตาพาคิดถึง
พิจิตราคนไกลให้คำนึง  อยู่ก้นบึ้งใจพี่มิวางวาย

แสงสุดท้ายลับเกาะเลาะทิวเมฆ  ดั่งฟ้าเสกความงามข้ามมาหา
เงาสะท้อนหมู่นกพสุธา  ถวิลหาแต่หน้าเจ้าโศกเศร้าจริง

เรือไดหมึกอวดแสงแรงลมคลื่น  ยามค่ำคืนมืดมิดจิตเปลี่ยวเหงา
เป็นวิถีชาวเลเท่ห์ไม่เบา  ทะเลเหงาแต่ยังเคล้าแสงจันทรา

นิราศ เพชรบุรี

คลื่นลมแรงแสงดับลับขอบฟ้า  ทะเลบ้าทรายทรุดสะดุดหิน
ฟ้าเริ่มมืดลาลับดับไอดิน  นกโผผินบินสู่ประตูใจ

กุ้งทะเลปูม้าพากายอิ่ม ทั้งน้ำจิ้มหลากรสสดและใหม่
ปลาเนื้ออ่อนแดดเดียวเปลี่ยวเหงาใจ  ซ่อนความในไร้คู่ดูทะเล

ทะเลดำช้ำรักหักใจโหย ลมพัดโชยโรยกลิ่นถวิลหา
จากเจ้าไกลสุดล่าพสุธา  พิจิตราป่านนี้เป็นเช่นไร

จะคิดถึงคนทางนี้ที่ไกลไหม  จะห่วงใยคนทางนี้ที่โหยหา
จะยังจำใบหน้าและแววตา  ของคนบ้าคนเขลาเศร้าโศกใจ

นิราศบ้านโป่ง

ถึงสหกรณ์หนองโพรโหฐาน  เป็นตำนานโคนมอุดมผล
ประโยชน์ยังเกษตรกรทั่วทุกคน  แสนสุขล้นอิจฉาคนโพธาราม

ผ่านบ้านโป่งเมืองโอ่งโค้งหักศอก  สุดช้ำชอกเจ้าลวงหลอกหรือแค่เหงา
ติดต่อไปไม่พบประสบเงา  คืนนั้นเจ้าแค่เมาหรือรักจริง

ราชบุรียามนี้มีแต่เหงา  เห็นรวงข้าวทุ่งนาฟ้ากว้างใหญ่
ผ่านสะพานแขวนจุฬาอ่อนล้าใจ  คิดถึงใครคิดถึงเธออยากเจอจอย

แดดตัเมืองร้อนฉ่าพาให้หิว  บาร์ บี คิวกระเพาะปลา โชยกลิ่นหอม
เย็นตาโพโอเลี้ยงต้นพยอม  แมลงตอมร่อนบินรสลิ้มเอย

นิราศ บึงฉวาก

สองฝั่งทางฝากฝั่งฉวากเลค  มีปุยเมฆน้อยใหญ่ให้มองหา
ก้อนกลมขาวดั่งหน้าเจ้าลอยมา  สิ่งลวงตาพาเพ้อถึงเธอแล

ปลาทะเลหลากสีดูดีสวย  ตามติดด้วยประการังสีสดใส
บ้างมาจากทะเลอันแสนไกล  สัตว์น้อยใหญ่ไกลบ้านที่จากมา

ดั่งตัวพี่ห่างเหินเผชิญโศก  วิปโยคจิตตรึคะนึงหา
จากเชียงใหม่ไกลน้องพิจิตรา  เหมือนคนบ้าขาดคู่มาดูใจ

เวิ้งน้ำใหญ่ใสกว้างบ้างลึกตื้น เสียงสะอื้นหมู่นกที่ผกผิน
บอกพี่ว่าเจาคิดถึงจึงได้ยิน  ฝากผืนดินบอกเจ้าข้าเหงาใจ

นิราศ เดิมบางนางบวช

ถึงเดิมบางบางคนระคนเหงา  คิดถึงเงาเจ้านั้นวันฟ้าหลัว
ที่สุพรรณสุดเหงาเศร้าและกลัว  ป่านนี้ตัวเธอนั้นทำอะไร

แล่นผ่านบ้านด่านช้างห่างเหินหา ยอดชีวาเจ้าคิดถึงพี่บ้างไหม
เช้าวันนี้เคลิ้มเหงาเปล่าหัวใจ  จากมาไกลเชียงใหม่ไกลสุดตา

เฝ้าคิดถึงรอยจูบรูปและกลิ่น  ระรวยรินอ่อนหวิวกับชิวหา
สองดวงเนตรของเจ้าพิจิตรา  ดุจน้ำค้างหยาดฟ้ามาสู่ดิน

ผ่านทิวทุ่งกว้างใหญ่ไกลสุดแสน  รวงข้าวแทนความคิดถึงคะนึงหา
น้ำท่าจีนแทนรักที่จากมา  สุดเหว่ว้าขาดเจ้าในเงาจันทร์

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นิราศ ทั่วไทย

ถึงสุ 1000 พลันหวลครวญความหลัง   กลิ่นเ้จ้ายังอบอวลไม่จางหาย
แล่นมาจนราชบุรีมีหลักลาย  บ้านโป่งซ้ายขวาขวางบนทางเดิน

หัวหินหาดลาดยาวขาวสวยสด  เห็นน้ำลดชุมพรย้อนวิถี
จวบสุราษฎ์ฟ้าใหม่ไกลบุรี  ถึงกระบี่ตอนสายคลายโศกา

ผ่านเมืองใต้ใหญ่น้อยคล้อยหาเจ้า ขาดทั้งเงาและเสียงเพียงห่างเหิน
คิดถึงเจ้าระคนเหงาต้องเผชิญ  อีกไม่เกิน 2 เพลาพบหน้ากัน

ถึงเดิมบางนางบวชรวดร้าวจิต  ยังครุ่นคิดถึงหน้ามนคนเชียงใหม่
แล่นมาถึงปากน้ำโพโลเลใจ  ยังห่วงใยคนเก่าเร้าอารมณ์